หมายเหตุและคำอธิบาย:
01 จากการได้เที่ยวชมโบราณสถานในประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 13-16 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ผมได้รับความประทับใจ รู้ถึงมิตรภาพที่ชาวกัมพูชามีต่อนักท่องเที่ยว วลีที่กล่าวว่า "ออกุนเจริญ ๆ กัมพูชา" ซึ่งแปลว่า "ขอบคุณมาก ๆ กัมพูชา" นี้นั้น ผมขอสะท้อนถึงความประทับใจที่ได้รับ และจะนำเรื่องราวข้อมูลที่ได้ประสบมาและจะค้นคว้าต่อไป ซึ่งจะแสดงในบล็อกนี้นั่นเอง. และข้อมูลอ้างอิงหลักจะมีหลาย ๆ ส่วน ประกอบด้วย
1) การบรรยายของอาจารย์เทพมนตรี ลิมปพยอม และอาจารย์สร้อยนภา พันธุ์คง
2) หนังสือสำหรับนำชมโบราณสถานเขมร ในช่วง 13-16 ตุลาคม 2560 "วงพักตร์แห่งหินผา อัปสราแห่งบันเตีย"
3) หนังสือเที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยกัมพูชา เขียนโดย Kittinew สำนักพิมพ์ ทิบ ไทย อินเตอร์ บุ๊ค พิมพ์ครั้งที่ 1 พฤษภาคม 2557
4) ประวัติศาสตร์และศิลปะแห่งอาณาจักรขอมโบราณ เล่ม 1 โดย สรศักดิ์ จันทร์วัฒนกุล สำนักพิมพ์เมืองโบราณ พิมพ์ครั้งที่ 2, ตุลาคม 2552
5) ปราสาท(เขา)พระวิหาร โดย ดร.ธิดา สาระยา, สำนักพิมพ์เมืองโบราณ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 4, มีนาคม 2552.
6) Ancient Angkor: Book Guides เขียนโดย Michael Freeman และ Claude Jacques, สำนักพิมพ์ River Book กรุงเทพ, ค.ศ.2009.
02 เท่าที่ศึกษามา คำว่า บันเตีย แปลเป็นภาษาไทยว่า บ้านใต้ เช่น จังหวัดบันเตียเมียนเจย หมายถึง บ้านใต้มีชัย, อุดรเมียนเจย หมายถึง อุดรมีชัย. เป็นไปตามที่หัวหน้าคณะทัวร์ "อาจารย์เทพมนตรี ลิมปพยอม" ได้เขียนและตั้งชื่อหนังสือสำหรับนำชมโบราณสถานเขมร ในช่วง 13-16 ตุลาคม 2560 ไว้นั่นเอง. แต่จากการได้สนทนากับคุณมาไลย มัคคุเทศก์ท้องถิ่น ซึ่งให้ความเห็นว่า บันเตียไม่ได้หมายความว่าบ้านใต้ แต่เป็นระดับความสำคัญ มากน้อย ใหญ่กลางเล็กมากกว่า เช่น ระดับปฐม ระดับบันเตีย เป็นต้น (ซึ่งจะใคร่ขอค้นคว้าต่อไป)
03 อาจารย์เทพมนตรีได้บรรยายถึงครอบครัวเทพเจ้าสามครอบครัว ประกอบด้วย :
หนึ่ง) ครอบครัวพระศิวะ
ภาพ: พระศิวะ พระแม่อุมาเทวี (หรือพระแม่ปารวตี) พระขันทกุมาร พระคเณศ (พระพิฆเนศ)
และ โคอุศภราช (โคนันทิ) บนยอดเขาไกรลาส
ที่มา: youmeandtrends.com, วันที่สืบค้น 19 ตุลาคม 2560.
สอง) ครอบครัวพระวิษณุ
ภาพ: พระวิษณุ (หรือพระนารายณ์) พระแม่ลักษมีมหาเทวี พระพรหม และพญาอนันตนาคราช บนไวกูณฐ์สวรรค์
ที่มา: www.ruchiskitchen.com, วันที่สืบค้น 19 ตุลาคม 2560.
สาม) ครอบครัวพระพรหม
ภาพ: พระหม และสัตว์พาหนะคือหงส์
ที่มา: www.siamganesh.com, วันที่สืบค้น 19 ตุลาคม 2560.
- พระพรหมมีสี่พักตร์ พระศอสวมลูกประคำ พระหัตถ์แต่ละข้างถือดอกบัว, คัมภีร์, และหม้อน้ำ มีพาหนะเป็นหงส์ หรือ ห่าน พระชายา คือ พระสุรัสวดี เทพีแห่งศิลปะวิทยาการและความรอบรู้.
- ซึ่งเทพทั้งสามข้างต้นนี้ (พระศิวะหรือพระอิศวร-ผู้ทำลาย, พระนารายณ์หรือพระวิษณุ-ผู้ปกป้องรักษา, และพระพรหม-ผู้สร้าง) ได้อวตารรวมของพระผู้เป็นเจ้าสูงสุด เป็น พระตรีมูรติ (Trimurti)
พระตรีมูรติ (Trimurti), ที่มา: thecminds.wordpress.com, วันที่สืบค้น 21 ตุลาคม 2560.
เทพเจ้าประจำทิศต่าง ๆ :
สี่ทิศแรก (เหนือ ตะวันออก ใต้ ตะวันตก) รวมเรียกว่าท้าวจาตุโลกบาลหรือท้าวจตุมหาราช หมายถึง หัวหน้าเทวดาในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช มีหน้าที่รักษาโลกทั้งสี่ทิศ
ทิศเหนือหรืออุดร:
กุเวร จอมยักษ์ หรือ ท้าวเวสสวัน บ้างก็เรียก ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ (บ้างก็กล่าวว่าเป็นองค์เดียวกันกับพระไพศรพณ์ - พระ-ไพ-สบ) เป็นผู้ปกครองเหล่ายักษ์ มีพระวรกายสีทอง พระภูษาแดง พระหัตถ์ขวาถือกระบอง พระหัตถ์ซ้ายให้อภัย ทรงมนุษย์เป็นบริวารหรือพาหนะ มีหน้าที่รักษาความเรียบร้อยยุติธรรมในสวรรค์ เป็นเทวดา สัญลักษณ์ของอัยการ.
ท้าวกุเวรทรงมนุษย์เป็นพาหนะ, ที่มา: th.wikipedia.org, วันที่สืบค้น 19 ตุลาคม 2560.
ทิศตะวันออกหรือบูรพา:
ท้าวธตรฐ จอมภูตหรือจอมคนธรรพ์ หรือพระอินทร์ ทรงช้าง(เอราวัณ) เป็นพาหนะ พระวรกายผิวคล้ำ ภูษาแดง พระหัตถ์ขวาทรงถือวัชระ(ตรี) บ้างก็ว่าพระหัตถ์ซ้ายทรงขอช้าง คู่ครองคือพระแม่ศจี.
พระอินทร์ ทรงช้างเอราวัณ, ที่มา: th.wikipedia.org, วันที่สืบค้น 19 ตุลาคม 2560.
ทิศใต้หรือทักษิณ:
พระยม (ท้าวพญายมราช) หรือ ท้าววิรุฬหก จอมเทวดา หรือ จอมกุมภัณฑ์ พระวรกายสีดำ ภูษาแดง พระหัตถ์ขวาทรง คฑา เชือกหรือบ่วงบาศก์ บ้างก็ว่าพระหัตถ์ซ้ายทรงพระขรรค์ ทรงควายเป็นพาหนะ
พระยม หรือ Yama ทรงควายเป็นพาหนะ,
ที่มา: en.wikipedia.org, วันที่สืบค้น 19 ตุลาคม 2560.
ทิศตะวันตกหรือประจิม:
วิรูปักษ์ จอมนาค หรือ พระวรุณ (พระพิรุณ) เทพแห่งฝน พระวรกายสีขาว พระภูษาสีเหลือง พระหัตถ์ขวาทรงถือเชือกบ่วงบาศก์ เมื่อมีผู้ทำบาปพระพิรุณจักใช้บ่วงคล้องผู้นั้นไปหาพญายมราช เพื่อนำไปลงทัณฑ์ พระหัตถ์ซ้ายทรงประทานพร ทรงม้าเป็นพาหนะ บ้างก็ว่าทรงจระเข้ ในความเชื่อของคนไทยแล้ว ทรงเป็นผู้ให้ฝน ให้น้ำ ถือพระขรรค์ ทรงพญานาคหรือมกรเป็นพาหนะ เป็นสัญลักษณ์ของหน่วยงานด้านการเกษตร เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.
ภาพ: พระวรุณ (Varuna) พบในรัฐราชสถาน (Rajasthan) ประเทศอินเดีย
ที่มา: en.wikipedia.org, วันที่สืบค้น 19 ตุลาคม 2560.
ทิศตะวันออกเฉียงใต้หรืออาคเนย์:
พระอัคนีหรืออัคคีหรือพระเพลิง พระวรกายสีแเดง ภูษาสีแดง บ้างก็ว่าพระหัตถ์ซ้ายทรงช้อน พระหัตถ์ขวาทรงหอก บ้างก็มีขวาน คบไฟ สายประคำ พาหนะคือแกะตัวผู้ หรือ แรด พระอัคนีเป็นบุตรของพระแม่ธรณี คู่ครองคือพระนางสวาหา.
ภาพ: พระอัคนี (Agni), ที่มา: en.wikipedia.org, วันที่สืบค้น 19 ตุลาคม 2560.
ทิศตะวันตกเฉียงใต้หรือเนรดี:
พระนิรฤดีหรือหรดี หรือพระไนรฤติ (พระนิรฤติ) เป็นเจ้าแห่งอสูร พระวรกายสีขาว ภูษาสีเหลือง พระหัตถ์ขวาทรงถือดาบ บ้างก็ว่าพระหัตถ์ซ้ายทรงโล่ พาหนะคือม้า(รากษก)
พระไนรฤติ ที่มา: group.wunjun.com, และ arts-108.blogspot.com, วันที่สืบค้น 19 -20 ตุลาคม 2560.
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือหรือพายัพ:
พระพายหรือพายุ วายุ เป็นกษัตริย์แห่งคนธรรพ์ พระวรกายสีดำ พระภูษาสีขาว พระหัตถ์ขวาทรงถือธง บ้างก็ว่าพระหัตถ์ซ้ายทรงพระขรรค์ บ้างก็ว่า อาวุธคือ ธงสีขาว แขนง แตร มีกวางเป็นพาหนะ มีบุตรคือ หนุมาน และ ภีมะ
พระพาย หรือ วายุ ที่มา th.wikipedia.org และ en.wikipedia.org, วันที่สืบค้น 20 ตุลาคม 2560.
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือหรืออิศาน:
พระอีศานหรืออิศานหรืออิศาณ พระวรกายสีขาว พระภูษาสีขาว พระหัตถ์ขวาทรงถือตรีศูล บ้างก็ว่าพระหัตถ์ซ้ายทรงถือสังวาลย์นาค ทรงวัวเป็นพาหนะ
พระอิศาณ, ที่มา: arts-108.blogspot.com, วันที่สืบค้น 20 ตุลาคม 2560.
04 อ้างอิง ทบทวน และปรับเสริมจากการบรรยายของอาจารย์เทพมนตรี อาจารย์สร้อยนภา และ nhoomthonburi.blogspot.com/2016/10/economical-traveler.html, วันที่สืบค้น 18 ตุลาคม 2560. กลุ่มปราสาทเกาะแกร์ (Koh Ker, เกาะฮ์เก) เป็นแหล่งโบราณสถานทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองพระนคร ห่างออกไปราว 100 กิโลเมตร อยู่กลางป่าและมีผู้คนอาศัยอยู่เบาบาง การที่เกาะแกร์อยู่กลางป่าห่างไกลจากเมืองพระนคร ("ยโศธรปุระ"-Yasodharapura หรือ นครวัด-นครธม") ทำให้การดูแลในช่วงที่เมืองพระนครเริ่มเป็นที่รู้จักสู่โลกภายนอกนั้น มีความยากลำบาก และได้รับความเสียหายจากการขุดค้นหาโบราณวัตถุอยู่บ่อยครั้ง (เท่าที่สังเกตเห็น ศิวลึงค์ เศียรเทพหรือทั้งองค์เทพหายไปมาก หรือเกือบทั้งหมด ด้วยมีการลักลอบค้าวัตถุโบราณกันต่อเนื่อง)