MENU
TH EN

2. เทพปกรณัมกรีกและโรมันโบราณ - ยุคทองแห่งการกินคน

"เรอา"มอบหินที่พันผ้าไว้ให้"โครนอส", ให้เข้าใจว่าทารกนั้นคือ"ซูส",
ที่มา: www.maucar.com, วันที่สืบค้น 02 ก.พ.2560


2. เทพปกรณัมกรีกและโรมันโบราณ - ยุคทองแห่งการกินคน01
First revision: Nov.09, 2016
Last change: May 01, 2023
สืบค้น รวบรวม เรียบเรียง และปริวรรตโดย
อภิรักษ์ กาญจนคงคา.
 
  • โครนอส หรือ โครนัส (Cronos or Cronus or Kronos) เริ่มไต่เต้าไปสู่ความโฉดชั่วแบบสุดขั้วทีละนิด.
  • โครนอสปล่อยไซคลอปส์อาวุโส และพวกร้อยมือจากขุมนรกทาร์ทารัส ทำให้ไกอาแฮ้ปปี้มาก ๆ.
  • ไซคลอปส์อาวุโสและพวกร้อยมือ ใช้เวลาส่วนใหญ่ในทาร์ทารัส เรียนรู้ศาสตร์การหลอมโลหะและการสร้างเครื่องมือหิน
  • และพวกเขาได้ตอบแทนโครนอส โดยการสร้างวังขนาดมโหฬารเป็นหินอ่อนดำสนิท บนยอดเขาโอทริส (Mount Othrys) ให้โครนอส (ขณะนั้นโอทริสเป็นภูเขาลูกที่สูงที่สุดของกรีซ)
              
เทพโครนอสหรือโครนัสกับเคียว "ไททันแห่งการเก็บเกี่ยว"  และ วังของโครนอสเป็นหินอ่อนดำสนิท (Black Castle)02 บนเขาโอทริส
 
  • โครนอส เป็นไททันแห่งกาลเวลา เขาสามารถหน่วงเวลาให้ช้าหรือเร็วขึ้นได้ บ้างก็กล่าวว่าเป็นไททันแห่งการเก็บเกี่ยว (Titan of The Harvest)
  • ไครอัส (Crius หรือ Krios) เป็นไททันแห่งทิศใต้ เขาใช้แกะเป็นสัญลักษณ์ เพราะกลุ่มดาวแกะนั้นปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าทิศใต้ โดยไครอัส จะสวมชุดเกราะสีน้ำเงินกรมท่า ซึ่งมีดวงดาวแต้มเป็นจุด ๆ หมวกรบมีเขาแกะยื่นออกมา มีบุคลิกแบบดำมืดเงียบขรึม
  • เป็นเรื่องแปลกมาก เพราะชาวกรีกนั้น เชื่อว่าโลกเป็นวงกลมแบน ๆ เหมือนโล่ เพราะงั้นก็ไม่น่าจะมีมุมได้ แต่ก็ช่างเถอะ
              
กลุ่มดาวแกะ สัญลักษณ์ของไครอัส03   และไททันไครอัส04
 
  • โคออส (Coeus หรือ Koios) เป็นไททันทางทิศเหนือ อาศัยอยู่ตรงข้ามสุดปลายโลก (แน่นอนอยู่แล้นนน..!!!) บางครั้งโคออสก็มีชื่อว่า โพลัส (Polus) (ตามชื่อเรียกเทพไททันของโรมัน) เพราะเขาควบคุมขั้วโลกเหนือ (Northpole - นอร์ธโพล) (เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีซานตาคลอสนะคร้าาาบ)  โคออสนั้นแปลตรงตรงตัวได้ว่าคำถาม เขาสามารถตั้งคำถามต่อท้องฟ้าได้ (Query, Questioning) บางครั้งท้องฟ้าก็กระซิบคำตอบให้.
  • การรู้เศษเสี้ยวอนาคตของโคออสนั้น มีประโยชน์จนไททันองค์อื่น ๆ ต้องเริ่มเอาคำถามสำคัญ ๆ มาถามเขาบ้าง.

ไททันโคออส (Coeus), ที่มา: www.greekmythology.com/Titans/Coeus/coeus.html, วันที่สืบค้น 23 พ.ย.59

 
  • ส่วนไฮเพอเรียน (Hyperion) เป็นไททันแห่งทิศตะวันออก นั้นดูเฉิดฉายที่สุดในบรรดาไททันทั้งสี่ เพราะแสงรุ่งอรุณจะฉายออกมาทางทิศตะวันออกในทุกเช้า เขาเรียกตัวเองว่าจ้าวแห่งแสง (Lord of Light) พอลับหลังใคร ๆ ก็เรียกเขาว่า โครนอสไลต์ (Cronos Lite) (Lite หมายถึง เบา ต่ำกว่า) เพราะเขาชอบทำตามคำสั่งของโครนอสทุกอย่าง.
  • เกราะของเขาเป็นสีทองอร่ามตา ที่มักจะมีเปลวไฟลุกพรึบขึ้นมาเป็นระยะ ๆ .
           
ไททันไฮเพอเรียน04 และจาก greekmythology.wikia.com/wiki/Hyperion, วันที่สืบค้น 23 พ.ย.59.
 
  • ส่วนไอแอพิตัส (Iapetus) นั้นเป็นคู่ตรงข้ามกับไฮเพอเรียน เขาดูเนือย ๆ เฉื่อยชากว่า ด้วยความเป็นไททันแห่งทิศตะวันตก เขามักทำตัวชิล ๆ ไอแอพิตัสเป็นนักสู้ชั้นยอด ใช้หอกได้อย่างเชียวชาญ แปลตรงตัวแล้ว ไอแอพิตัสมีความหมายว่าจอมเสียบ (The Piercer) ชื่อของเขามีรากศัพท์มาจาก iapto แปลว่า บาดเจ็บ เสียบแทง (wound, pierce) และบางครั้งหมายถึงหอก (spear) 
  • บ้างก็เรียกเขาเป็นเทพแห่งงานฝีมือ (God of Craftsmanship) หรือเป็นเทพแห่งความตาย (God of Mortality).

ไททันไอแอพิตัส
 
  • ส่วนพี่ชายองค์สุดท้าย โอเชียนัส (Oceanus) ทำหน้าที่ดูแลน่านน้ำรอบนอกที่ล้อมรอบโลก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องเรียกท้องน้ำตามขอบโลกว่า โอเชียน (Ocean).
      
ไททันโอเชียนัส และ อิคอร์
 
  • อาจเป็นเพราะในโลกนี้มีตัวเลือกครองชาย-หญิงไม่มากนัก ก็กลายเป็นว่าพี่น้องผู้ชายจะแต่งงานกับพี่น้องผู้หญิงกัน.
  • และด้วยเพราะว่าไททันผู้เป็นอมตะนี้แตกต่างจากมนุษย์ พวกเขามีมีชีวิตยืนยาวตลอดกาล ไททันเหล่านี้มีพลังมหาศาล ทั้งยังมี "อิคอร์ (Ichor)"05 แทนที่จะเป็นเลือดและดีเอ็นเอ เพราะฉะนั้นไททันเหล่านี้ จึงไม่ต้องพะวงว่าสายเลือดเข้ากันไม่ได้.
  • ไททันหญิงองค์โตสุดคือ เธเอีย (Theia) นางชอบของแวววาวและทิวทัศน์สว่าง ๆ เอามาก ๆ ทุกเช้านางจะเต้นรำด้วยความดีใจ เมื่อแสงอาทิตย์หวนกลับมาอีกครั้ง นางจะปีนขึ้นไปบนภูเขาเพื่อมองไปรอบ ๆ.
  • นางจะดำดิ่งลงไปยังพื้นพิภพ เพื่อนำอัญมณีล้ำค่าขึ้นมา แล้วใช้เวทมนตร์ ทำให้มันทอประกายระยิบระยับ เธเอียคือผู้ที่ทำให้ทองคำ มีแสงเรืองรองและทำให้เพชรส่องแวววับ.
  • นางเป็นไททันแห่งสายตาที่กระจ่างจ้า หรือสายตาและการส่องแสง (Titaness of Sight and Shining).
  • ท้ายที่สุด นางลงเอยได้สมรสกับไฮเพอเรียน จ้าวแห่งแสง ทั้งคู่เข้ากันได้ดี นางกับไฮเพอเรียน มีบุตรด้วยกันสามคน คือ 1) ฮีเลียส (Helios) - ไททันแห่งพระอาทิตย์ (the Titan of the Sun) 2) อีออส (Eos) - ไททันหญิงแห่งอรุณรุ่ง (Titaness and the goddess of the Dawn หรือเทพโรมันชื่อ Aurora ในภาษาสันสกฤตเรียกว่า อุษา (Ushas)) และ 3) เซลีน (Selene) ไททันหญิงหรือเทพีแห่งพระจันทร์ (the Goddess of the Moon หรือเทพีโรมันชื่อ ลูน่า (Luna)).
ไฮเพอเรียน และ เธเอีย
(ที่มา: untamedunwanted.tumblr.com/post/95479054478/t-h-e-t-i-t-a-n-s-she-gaia-the-earth-lay, วันที่สืบค้น 2 ธ.ค.59)

 
  • ส่วนน้องสาวเธมีส (Themis) นั้น แตกต่างโดยสิ้นเชิง นางชอบใช้ความคิดอยู่กับตนเองเงียบ ๆ ไม่เคยทำตัวเป็นจุดสนใจใด ๆ 
  • เธมีส มักสวมผ้าคลุมศีรษะสีขาวผืนเรียบ ๆ อยู่ตลอดเวลา และตระหนักได้ว่าตนเองมีสำนึกเกี่ยวกับผิดถูกชั่วดีติดตัวมาแต่กำเนิด.
  • นางเข้าใจว่าสิ่งใดยุติธรรมและสิ่งใดไม่ เมื่อไหร่ที่เกิดความกังขาข้องใจ นางอ้างว่านางสามารถเรียกภูมิปัญญามาจากผืนโลกได้.
  • สรุปไดว่าเธมีส มีชื่อเสียงดีในหมู่พี่น้อง เพราะนางสามารถไกล่เกลี่ยได้แม้กระทั่งข้อพิพาทอันเลวร้ายที่สุด นางเป็นไททันแห่งกฎธรรมชาติและความยุติธรรม นางไม่ได้สมรสกับหกพี่น้องฝ่ายชายเลยสักองค์ แสดงให้เห็นว่า นางมีความฉลาดไม่น้อย.
  • บ้างก็ว่า เธอเป็นภริยาตนที่สองของมหาเทพซูส (Zeus).

เธมีส (Themis) ชื่อเธอแปลว่า กฎอันศักดิ์สิทธิ์ (Divine law)
 

  • ส่วนน้องสาวไททันองค์ที่สามคือ เทธีส (Tethys) ซึ่งเธอรักแม่น้ำ น้ำพุ และน้ำสะอาดที่ไหลริน นางใจดีมาก มักจะนำเครื่องดื่มไปให้พี่น้องเสมอ ๆ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เทธีส มองว่าตนเองเป็นเสมือนผู้ดูแลโลกทั้งใบ เพราะสรรพชีวิตทั้งหมดต้องดื่มน้ำ.
  • สุดท้าย นางก็ลงเอยกับโอเชียนัส ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว เพราะต่างก็ชอบและเกี่ยวกับน้ำ.
เทธีส (Tethys) 
 
  • ฟีบี้ (Phoebe) พี่น้องไททันฝ่ายหญิงองค์ที่สี่ อาศัยอยู่ ณ ศูนย์กลางทางภูมิศาสตร์ของโลก ซึ่งชาวกรีกหมายถึง "ตำหนักเทพพยากรณ์แห่งเดลฟี (The Oracle of Delphi)" สถานที่ตั้งของน้ำพุอันศักดิ์สิทธิ์ บางครั้งเราอาจได้ยินเสียงกระซิบแห่งอนาคต (Whispers of the Future) ชาวกรีกเรียกสถานที่นี้ว่า "อ็อมฟาลอส (Omphalos)" แปลตรงตัวว่า "สะดือโลก".
ฟีบี้ (Phoebe) ที่มา: sites.google.com, วันที่สืบค้น 2 มกราคม 2560.
 
  • ฟีบี้เป็นเทพีไททันองค์แรก ๆ ที่หาวิธีฟังเสียงเพรียกแห่งเดลฟีได้สำเร็จ ชื่อของนางมีความหมายว่า เจิดจ้า (Bright).
  • ฟีบี้ลงเอยกับไอ้หนุ่มทิศเหนือ โคออส (Coeus หรือKoios) ไททันทางทิศเหนือ ซึ่งเขาเองก็มีพรสวรรค์แห่งคำพยากรณ์อยู่เหมือนกัน ดูทั้งคู่จะโชคร้ายได้เจอกันนาน ๆ ครั้ง เพราะอยู่ไกลกันมาก.
  • ข้อมูลแถม: ต่อมาหลานของฟีบี้ ชื่ออะพอลโล (Apollo) ก็เป็นเทพพยากรณ์สืบมา ด้วยพลังที่สืบทอดมาจากฟีบี้ บางครั้งเราจะเรียกเขาว่าฟีบัสอะพอลโล (Phoebus Apollo).
  • เทพีไททันองค์ที่ห้า คือ นีโมไซน์ (Mnemosyne) ชื่อต้องระวังการสะกดนิดหนึ่ง อ่านและสะกดไม่ง่ายนัก.
  • เธอเกิดมาพร้อมกับความทรงจำแบบภาพถ่าย (Photographic memory) นางจำได้ทุกอย่างเลย... วันเกิดของพี่น้อง การบ้าน ต้องเอาขยะไปทิ้ง... ในแง่มุมที่ดีแล้ว นางสามารถจำประวัติต้นตระกูลได้หมด และนางไม่เคยลืมอะไรแม้แต่อย่างเดียว.
นีโมไซน์ (Mnemosyne) ภาพจาก Greco-Roman Antioch mosaic C2nd A.D.,
Hatay Archeology Museum, ที่มา: www.theoi.com, วันที่สืบค้น 2 มกราคม 2560.

 
  •  นางได้ประดิษฐ์ตัวอักษรและการเขียนขึ้นมา นางเป็นไททันแห่งความจำ (Titan of memory) (หรือเจาะจงไปเลยว่านางเป็นไททันแห่งการท่องจำ-rote memorization)
  • ไม่มีไททันองค์ไหนอยากสมรสกับนาง
  • เรอา (Rhea) เทพีไททันน้องสาวคนที่หก - เรอาผู้น่าสงสาร นางเป็นไททันที่น่ารักและสะสวยที่สุด
  • นางดูจะโชคร้าย ชีวิตยากลำบาก ชื่อของนางแปลได้ทั้งลื่นไหลหรือผ่อนคลาย (flow or ease) เพราะนางมักไหลลื่นไปตามสถานการณ์ และมักให้ผู้คนผ่อนคลาย.
เรอา (Rhea หรือ Rheia) ภาพจาก: Museum of Fine Arts Boston: Rhea riding lion, Athenian red-fugure vase fragment
สืบค้นจาก www.theoi.com, วันที่สืบค้น 14 มกราคม 2560.
 
  • นางมักจะทำให้ผู้คนผ่อนคลาย นางจะเดินทางไปตามหุบเขาต่าง ๆ ในโลก เยี่ยมเยียนพี่น้อง พูดคุยกับนางไม้ (the Nymphs) และแซเทอร์ (the Satyrs) ที่กำเนิดมาจากโลหิตแห่งอูรานอส (Ouranos).
  • นางรักสรรพสัตว์ โดยเฉพาะสิงโต ถ้าเราเห็นภาพของเรอา นางมักมีสิงโตคู่หนึ่งอยู่ด้วยเสมอ.
  • เรอาเป็นเทพแห่งความเป็นแม่ (the Titam of Motherhood) เพราะนางรักเด็กทารก และช่วยทำคลอดให้พวกพี่ ๆ เทพีไททันเสมอ ท้ายที่สุดนางก็ได้ตำแหน่งมารดาผู้ยิ่งใหญ่ (the Great Mother) แต่ก็มีเรื่องร้าย ๆ ตามมาก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น (จุดที่เป็นมารดาผู้ยิ่งใหญ่). 
ไกอา (Gaia, 13-9 BC. Marble, Ara Pacis. Royal Cast Collection, Copenhagen)
ที่มา: www.maicar.com, วันที่สืบค้น 14 มกราคม 2560.

 
  • ตามความคิดของไกอา (Gaia) มารดาแห่งพื้นพิภพ (the Earth Mother) นางพอใจมากที่เห็นลูก ๆ ของนางควบคุมโลกไว้ นางก็จมกลับเข้าไปในผืนโลกอีกครั้ง นางผ่านอะไรมามาก ด้วยเพราะมีลูกถึง 18 ตน06 นางควรพักผ่อนบ้าง.
  • นางคิดว่า โครนอส (Kronos) คงจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้ดี เป็นราชาที่มีคุณธรรมสง่างาม (จริงรึ? แหงเหอะ..!!) นางล้มตัวลงพักงีบหนึ่ง ในทางธรณีวิทยา นั่นคือประมาณหลายสหัสวรรษ (A few millennia).
  • ในระหว่างนั้น บรรดาไททันก็เริ่มมีบุตรธิดาของตนเอง เรียกได้ว่าเป็นไททันรุ่นสอง
  • โอเชียนัส (Oceanus หรือ Okeanides) และเทธีส (Tethys) "คุณและคุณนายน้ำ" มีธิดา (องค์โต) ด้วยกันองค์หนึ่งชื่อ ไคลมีนี (Klymene บ้างก็เรียก Clymene) ซึ่งไคลมีนีจะเป็นเทพีแห่งความมีชื่อเสียง (Titan Goddess of Fame and Renown) ในภายหลัง นางชอบเรื่องซุบซิบนินทามาก.
ไคลมีนี (ด้านซ้าย) และ เฮร่า (Hera) ด้านขวา, Athenian red-figure hydria
ศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล (C5th B.C), Badisches Landesmuseum,
ที่มา: www.theoi.com, วันที่สืบค้น 15 มกราคม 2560.

 
  • นางไคลมีนี มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก สุดท้ายก็ตกหลุมรักไอแอพิตัส (Iapetus บ้างก็เขียนว่า Japetus) ไททันแห่งทิศประจิม (Titan of the West) {แน่นอนว่าไอแอพิตัสนั้น เป็นลุงของนาง แต่ก็เอาเถอะ เราอย่าไปคิดอะไรมากเลย กับเหล่าเทพไททัน}.
  • ไอแอพิตัส กับ นางไคลมีนี มีบุตรด้วยกันสี่องค์. (Altas, Prometheus, Epimetheus, และ Menoitus ในบล็อกนี้ของมุ่งเน้นที่สององค์แรกก่อนนะคร้าาบบ..!!)
  • บุตรองค์แรกคือ แอตลาส (Atlas) เขาเป็นนักสู้ตัวฉกาจ (an Excellent Fighter) แต่ไม่ค่อยฉลาดนัก ภายภาคหน้า แอตลาสจะได้เป็นมือขวาและขุมกำลังหลักของโครนอส.
แอตลาส (Atlas), ที่มา: weheartit.com, วันที่สืบค้น 15 มกราคม 2560
 
  • บุตรองค์ที่สอง คือ โพรมีเธอุส (Prometheus)07 ไททันองค์นี้เฉลียวฉลาดเท่าโครนอส.
  • บางตำนานกล่าวว่าโพรมีเธอุสได้สร้างสิ่งมีชีวิตระดับล่างขึ้นมาชนิดหนึ่ง นั่นคือ มนุษย์ (Humans).
โพรมีเธอุส (Prometheus), ภาพโดย Heinrich Friedrich, การสร้างมนุษย์โดยโพรมีเธอุส (Creation of Man by Prometheus) 
เมื่อ ค.ศ.1790, Liechtenstein, เป็นการเก็บรวบรวมของบรรดาเจ้าชาย, Vaduz-Vienna,
ที่มา: www.seniorweb.ch, วันที่สืบค้น 15 มกราคม 2560

 
  • ทั้งนี้ด้วยว่า วันหนึ่งโพรมีเธอุส แค่ไปนั่งเล่นริมแม่น้ำแล้ว ก็กอบดินเหนียวขึ้นมาปั้นเล่น เป็นรูปร่างตลก ๆ ที่คล้ายคลึงกับไททัน เพียงแต่ตัวเล็กกว่ามากและบี้ให้แบนได้ง่ายกว่ามาก.
  • บางทีดินเหนียวอาจจะมีเลือดของอูรานอสเจืออยู่ หรือไม่ก็โพรมีเธอุสอาจเป่าเสกชีวิตเข้าไปในหุ่นคู่นั้น ด้วยความจงใจก็สุดแล้วแต่จะคิด... แต่ดินเหนียวนั้น ก็มีชีวิตขึ้นมา กลายเป็นมนุษย์สองคนแรก.
  • บรรดาพวกไททันมองว่ามนุษย์นั้นบอบบาง เหมือนหนูตัวเล็ก ๆ ตายง่าย สกปรก ไม่เห็นมีประโยชน์อะไรต่อโลก พวกมนุษย์เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในถ้ำ และพยายามวิ่งหลบไม่ให้ถูกเหยียบแบน.
  • เหล่าไททันยังคงให้กำเนิดทารกไททันออกมาเรื่อย ๆ ในบล็อกนี้จะขอกล่าวเฉพาะไททันที่สำคัญเท่านั้น จะไม่กล่าวถึงทุกองค์.
  • ซึ่งโคออส (Koios) กับ ฟีบี้ (Phoebe) คู่รักนักพยากรณ์นั้น มีธิดาเทพด้วยกันนามว่า เลโท (Leto), นางตัดสินใจว่านางจะเป็นไททันผู้ปกป้องคุ้มครองเด็ก (the Titan protector of the young) นางเลโทจึงถือได้ว่าเป็นพี่เลี้ยงเด็ก (Babysitter) คนแรกของโลก ซึ่งพ่อแม่ไททันทั้งหลายชอบนางเลโทมาก.
เทพธิดาเลโท (Leto) (ที่มา: greekmythology.wikia.com, วันที่สืบค้น 17 มกราคม 2560.)
 
  • ไฮเพอเรียน (Hyperion) และเธเอีย (Theia) กล่าวได้ว่าทั้งสองคือ "คุณและคุณนายส่องแสง" ทั้งสองมีลูกแฝด คือ เฮลิออส (Helios) กับ ซีลีนี (Selene) (บ้างก็อ่านว่า "เซลีน") ผู้ซึ่งคอยควบคุมพระอาทิตย์และพระจันทร์ {บ้างก็กล่าวว่า ไฮเพอเรียนและนางเธเอีย มีบุตรอีกตนหนึ่งคือ  อีออส (Eos)}
                  
เฮลิออส (Helios)08,  ซีลีนี (Selene)09 และ อีออส (Eos)10
 
  • เฮลิออส จะขับรถพระอาทิตย์โฉบเฉี่ยวข้ามท้องฟ้าทุกวัน เขาดูเป็นที่ตรึงตาตรึงใจดึงดูดสาว ๆ กล่าวได้ว่า เฮลิออส คือ แม่เหล็กดูดสาว (Chick Magnet) อีกด้วย.
  • ส่วนซีลีนี นั้นไม่จ๊าบเท่า นางขับรถพระจันทร์สีเงิน (Her Silver Moon Chariot) ข้ามผาสนท้องฟ้าในเวลากลางคืน ส่วนใหญ่แล้ว นางมักจะเก็บตัว คราวหนึ่งนางซีลีนีไปตกหลุมรักใครเขาเข้าอย่างจริงจัง แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุด ซึ่งจะกล่าวต่อไปในภายหน้า.
  • ส่วนโครนอส (Kronos) เจ้าแห่งเอกภพ เขานั่งอยู่บนบัลลังก์ในวังบนภูเขาโอทริสและหงุดหงิดสุด ๆ.
  • เขาจำคำสาปของอูรานอส (Ouranos) บิดาตนได้ดี ไม่สามารถเอาคำสาบนี้ออกจากความทรงจำได้ ที่ว่า "วันหนึ่ง ลูก ๆ ของโครนอสเองจะมาโค่นบัลลังก์เขา". 
โครนอส (Cronos หรือ Kronos) พร้อมเคียว (Scythe)11
 
  • "เอาน่าเรื่องเล็ก ๆ เราก็แค่ไม่ต้องสมรสหรือมีลูก!" เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีเทพไททันญาติ ๆ มาเยี่ยมเยียนเขาเลย เพราะต่างก็มีครอบครัวกันไปหมด และอาจเป็นเพราะญาติ ๆ ไททันกลัวเขา เพราะด้วยความใจร้อนและโหดเหี้ยมเหมือนบิดา (อูรานอส) เขามีเคียวที่น่ากลัว หากไม่พอใจ โครนอสก็มักจะตวาดว่า "เราจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด".
  • เช้าวันหนึ่ง โครนอสถูกปลุกให้ตื่น โดยไซคลอปส์อาวุโสตนหนึ่ง มาตีแผ่นสัมฤทธิ์ (Bronze) ข้าง ๆ ห้องนอน ซึ่งนี่เป็นวันหยุด.. เขายั้วะทันที..!!! แม้ว่าเขาได้สัญญากับมารดาไกอาว่าจะปลดปล่อยพวกไซคลอปส์อาวุโส (The Elder Cyclopes) และพวกร้อยมือ (the Hundred-Handed Ones) จากทาร์ทารัส (Tartarus) ก็ตาม แต่ตอนนี้เขาขยะแขยงพวกไซคลอปส์อาวุโสขึ้นเรื่อย ๆ อันเนื่องมาจาก พวกเขามีกลิ่นเหมือนกระโถน พวกไซคลอปส์มีสุขอนามัยส่วนบุคคลอยู่ในระดับศูนย์ เห็นจะได้.
  • ชอบทำเสียงดังตลอด... สร้างโน่นสร้างนี่ ตีโลหะ ตัดหิน ตอนสร้างวังก็มีประโยชน์อยู่รอก ตอนนี้เหลือแต่น่ารำคาญอย่างเดียวแล้ว.
  • โครนอส เรียกให้แอตลาส ไฮเพอเรียน และลูกสมุนกลุ่มหนึ่งไปล้อมพวกไซคลอปส์อาวุโสและพวกร้อยมือไว้ จับล่ามโซ่ และโยนลงสู่ทาร์ทารัสอีกครั้ง หากนางไกอาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง นางคงเศร้าใจ แต่ทำไงได้ ต้องทำใจ เพราะตอนนี้โครนอสเป็นราชาแล้วนี่. 
  • โครนอส ยังรู้สึกว้าเหว่อยู่ดี เขามีสาวที่เล็งไว้แล้ว เขาแอบชอบเรอา เวลามีงานรวมญาติ โครนอสจะแอบมองนาง และคอยฮึมกันท่าไททันหนุ่มอื่น ๆ ไม่ให้เข้ามาจีบนาง.
  • โครนอสสับสนไม่อยากมีภรรยา เพราะยังจำคำสาป ของอูรานอสได้ดี แต่เขาก็ยั้งใจไม่ไหวต่อความเป็นหญิงที่อ่อนหวาน รอยยิ้มของเรอาที่ดูเจิดจ้า เขาชอบผมหยักศกสีเข้มที่ยาวประบ่าของนางเรอา ดวงตานางก็ก็ช่างเขียวเปล่งปลั่งราวกับทุ่งหญ้า ริมฝีปากก็โอ้....
  • โครนอส เชิญเรอามาทานอาหารค่ำสุดแสนโรแมนติก และสารภาพรักกับนาง ไม่ทราบว่าเรอาคิดอย่างไร อาจเป็นเพราะรักด้วย หรือกลัวในความอำมหิต จอมอุบายของโครนอส ซึ่งในที่สุดนางก็ตกลงสมรสกับโครนอส.
  • ไม่ช้าไม่นาน เรอาก็ตั้งครรภ์ และกำเนิดทารกขึ้นมาเป็นธิดาแสนสวย เด็กหญิงนี้ช่างสมบูรณ์แบบมาก หรืออาจกล่าวได้ว่าสมบูรณ์แบบเกินไป เรอาตั้งชื่อลูกของนางว่า เฮสเทีย (Hestia).
เฮสเทีย (Hestia)12
 
  • นางเรอาใช้ผ้าหุ่มห่อทารกไว้ แล้วยื่นให้โครนอส ที่กำลังภูมิใจ โครนอสยิ้ม เขาพบว่าทารกนี้ไม่ใช่อสุรกาย...เจ๋ง แต่ก็สังเกตว่าเฮสเทียไม่ใช่ไททัน เธอตัวเล็กกว่า ตัวหนักกว่า มีสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ ดวงตาเปล่งประกาย แสดงถึงสติปัญญาเลิศล้ำกว่าทารกทั่วไป.
  • นางเป็นเทพี เป็นไททันคลื่นลูกใหม่...เป็นไททันเวอร์ชั่น 2.0 และเป็นสมาชิกแรกเริ่มของกลุ่มผู้อมตะสายพันธุ์ใหม่ (An newly branch of immortal evolution).
  • โครนอส ปล่อยให้นางเติบโตไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคำสาป ของอูรานอสจะเป็นความจริง เขาต้องลงมือโดยเร็ว และถาวรที่สุด โครนอสอ้าปากกว้าง กลืนเฮสเทียไปทั้งตัว เรอากรีดร้องสติแตก ร้องขอให้โครนอสสำรอกออกมา แต่โครนอสมีกระเพาะที่แข็งแรง พอกินอะไรเข้าไปแล้ว ก็ไม่เคยขย้อนออกมาอีกเลย.
  • ในทางเทคนิคแล้ว เฮสเทียเป็นอมตะไม่มีวันตาย อยู่ในท้องของโครนอสอย่างนั้น ส่วนตัวของเรอานั้น นางก็ไม่สามารถหนีเจ้าแห่งโลกทั้งใบนี้ได้ นางได้แต่อดทนซื้อเวลา รอคอย จนกว่า จะสามารถเอานางเฮสเทียออกมาได้.
  • เรอาได้กำเนิดทารกอีกครั้ง คราวนี้เป็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยน่ารักยิ่งกว่าเดิม เธอชื่อ ดีมิเทอร์ (Demeter)
ดีมิเทอร์ (Demeter)13
  • โครนอส รับเด็กไว้ในอ้อมแขน เขาทราบทันทีว่าดีมิเทอร์นั้นเป็นเทพีอีกองค์หนึ่ง นางเปล่งออร่าแรงกล้ากว่าเฮสเทียเสียอีก นางเป็นตัวปัญหาขนานใหญ่เลยละ.
  • โครนอสไม่รอช้า เขาอ้ากรามแล้วกลืนลงไปอีก เรอาก็กรีดร้องโวยวาย ตามด้วยคุณพ่อก็ขอโทษขอโพย.
  • ท้องของโครนอส มีทารกอยู่ถึงสองตน โครนอสยืนกรานว่าอยากมีลูกอีก "ลูกคนต่อไป ต้องดีกว่านี้แน่" เขาให้สัญญา "ไม่กลืนเด็กแล้ว".
  • ลูกคนที่สามก็เป็นหญิงอีก เรอาตั้งชื่อให้นางว่า เฮร่า (Hera) และเฮร่าก็ไม่มีความเป็นไททันเลยแม้แต่น้อย นางเรอาได้ให้กำเนิดลูก ๆ ที่งดงามและทรงอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ.
เฮร่า (Hera), เทพีแห่งการสมรส สตรี การเกิดและครอบครัว14
  • เรอา จึงเค้นความกล้าขึ้นมา "นายท่าน เราขอเสนอธิดาให้ท่าน เฮร่า"
  • ง่ำ.....(GULP)...!!!
  • ครั้งนี้เรอา ออกไปจากห้องบัลลังก์ โดยไม่โวยวายอะไรอีก นางเจ็บปวดจนชาไปแล้ว ทั้งยังขมขื่นและไม่อยากจะเชื่อ นางสมรสกับจอมโกหกโดยกำเนิดที่เป็นฆาตกรและจอมกินเด็กต่างหาก ยังมีอะไรเลวร้ายกว่านี้อีกมั๊ย..!
  • ขณะเดียวกัน โครนอส ยังเป็นราชาแห่งเอกภพ ผู้มีลูกน้องเก่ง ๆ มากมายอีกด้วย เพราะงี้ นางจึงไม่สามารถ จะตอบโต้หรือหลบหนีไปไหนได้.
  • และเรื่องเลวร้ายมากกว่านี้ยังตามมาอีก.
  • เรอายังให้กำเนิด ทารกเทพเจ้าผู้สมบูรณ์แบบน่ารักน่าชัง มาอีกสองครั้ง ลูกเทพตนที่สี่เป็นเด็กผู้ชายชื่อ ฮาเดส (Hades) ซึ่งโครนอสน่าจะยั้ง ๆ บ้าง เพราะเป็นลูกชาย แต่เปล่าเลย เขมือบโลด..!
เฮเดส (Hedes)15
  • ลูกเทพตนที่ห้าก็เป็นเด็กผู้ชายอีก ชื่อ โพไซดอน (Poseidon) เหมือนเดิม กร้วม (SNARF)..!
โพไซดอน (Poseidon)16
  • ถึงตรงนี้ เรอาก็หนีออกไปจากวัง นางร่ำไห้โหยหวนและไม่รู้จะทำอย่างไร นางขอความช่วยเหลือจากจากเทพไททันองค์อื่น ๆ (พี่น้องและหลาน ๆ) ทั้งหมดจึงบอกให้เรอาแค่อย่าร้องไห้ไปเลย.
  • ท้ายที่สุดนางก็ไปหาฟีบี้ เทพีไททันพี่สาวที่ตำหนักเทพพยากรณ์แห่งเดลฟี (the Oracle of Delphi) แต่โชคร้ายที่เทพพยากรณ์ไม่มีคำแนะนำให้นาง.
  • เรอาวิ่งออกไปแล้วล้มตัวฟุบลงสะอื้นไห้ แนบกับพระธรณี ทันใดนั้นนางได้ยินเสียงกระซิบจากผืนโลก เป็นเสียงของไกอาผู้ยังหลับไหลอยู่ แม้ขณะพระแม่ธรณีไกอากำลังหลับฝัน ก็มิอาจทนฟังเสียงร้องโหยไห้ของเทพีไททันธิดาของตนได้.
  • "เมื่อเจ้าพร้อมจะให้กำเนิดบุตรธิดาครั้งต่อไป จงไปที่เกาะครีต (Crete) ..! เจ้าจะได้รับความช่วยเหลือ! เด็กคนนี้จะพิเศษไม่เหมือนใคร! เขาจะช่วยพี่ ๆ คนอื่น ๆ ได้!"
       
โครนอสกำลังกลืนลูก ๆ (Cronus Swallows His Young)17
 
  • เรอาสะอื้น พยายามตั้งสติ "เกาะครีตอยู่ที่ไหนกัน?" "มันเป็นเกาะแห่งหนึ่งทางทิศใต้" เสียงของไกอากล่าว "ล่องทะเลไอโอเนียน (Ionian Sea)19 ลงไปยังคาลามาตา (Kalamata)20 เลี้ยวซ้าย จากนั้นก็...เอาน่า เดี๋ยวเจ้าก็หาเจอเองล่ะ"
 
           
เกาะครีต (Crete) และทะเลไอโอเนียน (Ionian Sea)19 คาลามาตา (Kalamata)20
  • พอท้องของเรอาเริ่มโตขึ้นอีกครั้ง นางก็สูดหายใจลึก ๆ ปั้นหน้าเดินเข้าไปหาโครนอสหน้าบัลลังก์ในท้องพระโรงบนยอดเขาโอทริส เพื่อขอโครนอสไปคลอดที่เกาะครีต โดยนางอ้างว่าไททันโคออสกับฟีบี้ ได้มองอนาคตไว้ หากนางได้คลอดทารกที่นั่น โครนอสก็จะได้บุตรที่ทำให้เขาพึงพอใจที่สุด.
  • โครนอสสะดุดคิดนิดหนึ่ง แต่ที่สุดแล้วเขาก็อนุญาตให้นางเรอาไปเกาะครีตได้ โดยมีข้อแม้ว่าเมื่อนางคลอดทารกแล้ว จะต้องนำมาให้เขาเห็นโดยทันที.
  • นางเรอาเดินทางไปถึงเกาะครีตจนได้ นางได้รับความช่วยเหลือจากเหล่านางไม้ (Nymphs) โดยนางไม้เหล่านี้ ได้พานางไปพำนักในถ้ำอันแสนสุข ณ ฐานภูเขาอิดา (Mount Ida)21 .
 
ภูเขาอิดา หรือ ไอดา (Mount Ida) เมื่อมองจากทางทิศตะวันตก21
 
  • ใกล้กันก็มีลำธารไหลผ่าน เรอามีน้ำสะอาดไว้ดื่มใช้ไม่ขาด ป่าอุดมสมบูรณ์มีอาหารมากมาย.
  • เรอาได้ให้กำเนิดทารกออกมาเป็นเทพเจ้าชาย งดงามและสมบูรณ์แบบที่สุด เรอาตั้งชื่อว่า ซุส (Zeus) ความอาจแปลได้ทั้งท้องฟ้า (Sky) หรือส่องแสง (Shining) หรือไม่ก็ชีวิต (Living).
 
มหาเทพซุส (Zeus)22
  • ซุส เริ่มร้องไห้จ้า อาจเพราะรู้สึกได้ถึงความกังวลของมารดา เสียงร้องสะท้อนก้องไปทั่วถ้ำ ดังออกไปทั่วโลก...ดังเสียจนทุกคนรวมทั้งบรรดามารดาไททันรู้กันหมดว่าทารกคลอดแล้ว.
  • เรอารำพึง "เราสัญญาว่าจะนำทารกกลับไปให้โครนอสทันที และตอนนี้โครนอสก็คงจะรู้แล้วว่าเวลาเขมือบทารกได้มาถึงแล้ว".
  • พื้นถ้ำสั่นสะเทือน หินใหญ่ก้อนหนึ่งผุดขึ้นมาจากดิน...เป็นหินทรงไข่ที่ราบเรียบ มีขนาดและน้ำหนักเท่ากับทารกเทพเจ้าพอดี {บ้างก็กล่าวว่าหินนี้เรียกว่า หินสะดือ (the Omphalos Stone)}.
  • เรอารู้ทันทีว่านี่คือของขวัญจากแม่พระธรณีไกอา และนางก็รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ..!!!
  • นางนำผ้ามาห่อก้อนหินเอาไว้ ส่วนทารกซุสนั้น นางก็ฝากไว้กับพวกนางไม้ช่วยดูแล ซึ่งนางก็กังวลอยู่ว่านางไม้จะดูแลทารกเทพอย่างไร.
  • หนึ่งในนางไม้คือ "นีดา (Neda)" ก็บอกว่า พวกนางจะนำน้ำผึ้งจากรังใกล้ ๆ มาเลี้ยง ส่วนนมนั้นก็จะมาจากแพะอมตะที่เจ๋งมากตัวหนึ่ง...เป็นเจ้าแพะอะมัลเธีย (goat Amaltheia บ้างก็ว่า Amalthea) ที่สามารถให้นมทารกได้หลายรสชาติ {รวมทั้งสูตรไขมันต่ำ รสช็อกโกแลต และสูตรสำหรับทารกด้วย...!! - (ผู้เขียนตาม 01 คือ Rick Riordan มีอารมณ์ขันมากในการรจนาสาธก)}
ภาพแพะอะมัลเธียกำลังให้นมทารกเทพซุส (Infant Zeus Fed by the Goat Amalthea)23
 
  • เรอายอมรับเจ้าแพะวิเศษ แต่นางก็เกรงว่าโครนอสที่อยู่บนเขาโอทริส จะได้ยินเสียงเวลาที่ทารกเทพซุสร้องจ้าขึ้นมา "เจ้าสังเกตไหมว่าทารก มีปอดใหญ่ขนาดไหน" นางเรอากล่าวกับนางไม้นีดา นีดาครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วพาเรอาเข้าไปในถ้ำ แล้วตะโกนเรียกมารดาแห่งพื้นพิภพ เพื่ออ้อนวอนให้แม่พระธรณีไกอาช่วยเหลือ.
  • ฉับพลัน พื้นดินก็สั่นสะเทือน มีผู้ช่วยสามตนปรากฎกายออกมาซึ่งถือกำเนิดมาจากดินและโลหิตแห่งอูรานอส ผู้ช่วยเหล่านี้คือ คูรีต (Kouretes) ๆ จะพูดจาเสียงดัง สามารถกลบเสียงร้องของทารกเทพซุสได้ พวกเขามีร่างกายแบบมนุษย์ ขนดกมาก สวมขนสัตว์ ขนนกและหนังสัตว์ที่เรียบลื่น พวกเขาถือหอกและโล่.
  • และแล้วนางเรอาก็กลับไปภูเขาโอทริส นางเดินอาด ๆ เข้าไปในท้องพระโรงหรือห้องบัลลังก์ พร้อมด้วยห่อผ้าทารก นางแสร้งทำตัวปกติไม่ให้พิรุธ เพราะนางเริ่มมีทักษะในการแสดงมากขึ้น.


คูรีต (Kouretes บ้างก็เรียก Curetes) สามตนกำลังเต้นระบำเผ่ารอบ ๆ ทารกเทพซูส24
  • นางเรอากล่าวกับโครนอสราชาจอมกินเด็กว่า "นี่คือทารกที่งดงามที่สุดแล้ว และเราเดาว่าท่านก็คงจะกินเขาอีกใช่ไหมล่ะ".
  • "ช่วยไม่ได้ที่รัก" โครนอสกล่าว แม้ว่าเขารู้สึกอิ่มแล้วที่กลืนทารกลงท้องไปห้าตน แต่ก็เป็นเพราะคำสาปอะไรนั่น เขาจำเป็นต้องกิน โครนอสอ้าปากกว้างแล้วกลืนผ้า(ที่ห่อหินเอาไว้) ลงท้องไปทั้งหมด เรอาก็ร้องไห้ครวญคราง พร้อมกับกล่าวว่า เราจะไม่มีลูกกับท่านอีกแล้ว แล้วนางก็วิ่งออกจากท้องพระโรงไป ส่วนโครนอส ก็รำพึงในใจ "ก็ดีแล้วนี่ เราจะได้หมดห่วง และคำสาปบ้าบอนั่นคงทำอะไรเราไม่ได้แล้ว".

โครนอส, เรอา และหินสะดือ (Cronus, Rhea and the Omphalos Stone)18
 
  • ส่วนเรอานั้น เมื่อมีโอกาสนางก็จะมาภูเขาอิดา เกาะครีต บ่อยเท่าที่จะทำได้ เพื่อดูแลทารกเทพซุส และเล่านิทานก่อนนอนให้ซุสฟัง ถึงจอมเทพผู้ชั่วร้ายกลืนบุตรของตนลงกระเพาะ และพี่ ๆ ทั้งห้ากำลังรอความช่วยเหลือจากน้องคนเล็กกันอยู่.

 
ที่มา คำศัพท์ และคำอธิบาย:
01. ผมใช้ข้อมูลภาพประกอบจากหลาย ๆ แหล่ง แต่จะใช้โครงเรื่องคำอธิบายหลักมาจาก.หนังสือสามเล่ม คือ หนึ่ง: เรื่อง "เพอร์ซี่ แจ๊กสัน กับเรื่องเล่าของเหล่าเทพ (Percy Jackson's Greek Gods)" ที่เขียนโดย Rick Riordan แปลโดย ดาวิษ ชาญชัยวานิช สำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์ พิมพ์ครั้งที่ 2 มีนาคม 2559 (พร้อมศึกษากับต้นฉบับ "Percy Jackson and The Greek Gods", Rick Riordan, Penguin Random House UK, 2015) ผนวกกับ สอง: หนังสือ "สัตว์ประหลาดในเทพนิยายกรีก-โรมัน" เรียบเรียงโดย Dr.Know ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5 มิถุนายน 2558 ยิปซี สำนักพิมพ์ และ สาม: หนังสือ "Mythology ทวยเทพและตำนานสัตว์ประหลาดกรีก-โรมัน - สารานุกรมความรู้ต้นอารยธรรมตะวันตก" เรียบเรียงโดย Dr.Know ฉบับพิมพ์ครั้งแรก กุมภาพันธ์ 2557 ยิปซี สำนักพิมพ์ เป็นแกนหลักในการรจนา.
02. จาก. riordan.wikia.com/wiki/Mount_Othrys, วันที่สืบค้น 11 พ.ย.2559.
03จาก. riordan.wikia.com/wiki/Krios, วันที่สืบค้น 11 พ.ย.2559.
04. จาก. www.greekmythology.com/Titans/Coeus/coeus.html, วันที่สืบค้น 23 พ.ย.2559.
05. ปรับปรุงจาก. www.greekmythology.com/Myths/Elements/ichor/ichor.html, "ในกรีกเทพปกรณัม, อิคอร์เป็นของเหลวสีทองไหลเวียนในเส้นเลือดของบรรดาเทพและเหล่าสิ่งมีชีวิตที่อมตะทั้งหลาย เชื่อกันว่ามันเป็นพิษและสามารถสังหารมนุษย์ได้..." "Ichor was the golden fluid that flowed in the veins of gods and immortals, in Greek mythology. It was also believed that it was toxic to mortals, killing them instantly, Ichor also ran through the single vein that Talos had, a giant bronze man with wings that was seen in Ancient Crete. He was responsible for guarding Europa and hurled rocks against anyone who came close. He died when the Argonauts went to Crete after they had retrieved the Golden Fleece; Medea removed the nail that controlled the flow of ichor, which drained from Talos and killed him.", วันที่สืบค้น 1 ธ.ค.2559.
06.  ลูก 18 ตนของอูรานอสกับไกอา ประกอบด้วยสามชุด: ชุดที่หนึ่ง) บุตรธิดาชุดแรก 12 ตน ชายหก หญิงหก คือ โอเชียนัส, โคออส, ไครอัส, ไฮเพอเรียน, ไอแอพิตัส, เธเอีย, เรอา, เธมีส, นีโมไซน์, ฟีบี้, เทธีส และโครนอส  ชุดที่สอง) ไซคลอปส์อาวุโสสามตน คือ บรอนทีส, สเทอโรฟีส และ อาจีส และชุุดที่สาม) พวกร้อยมือสามตน ประกอบด้วย คอนทัส, เบรียรูส และ ไกจีส (รายละเอียดดูใน 1.ปฐมบท เทพปกรณัมกรีกและโรมันโบราณ)
07.  มีหนังฮอลลีวู้ดแนวไซ-ไฟ (Sci-Fi) และน่าสะพรึงกลัว เรื่อง โพรมีเธอุส (PROMETHEUS) (ค.ศ.2012) กำกับการแสดงโดย ริดลี่ย์ สก็อตต์ มีการตีความได้หลายมุมมอง...ส่วนหนึ่งตีความว่า...เอเลี่ยนที่เข้ามายังดาวโลกและเป็นผู้ให้กำเนิดมนุษย์ (โดยบังเอิญ-ดีเอ็นเอของเอเลี่ยนกระจายตกลงไปในสายน้ำ) แล้วจากไป ดูเหมือนเอเลี่ยนจะไม่พึงพอใจกับการที่มนุษย์กำเนิดขึ้น อาจจะคิดว่าเป็นความผิดพลาดและไม่สมบูรณ์ ต้องกำจัด.
08. จาก: www.greekmythology.com, วันที่สืบค้น 17 มกราคม 2560.
09. จาก: www.theoi.com, ซีลีนี (Selene) ไททันหญิงแห่งพระจันทร์ (Titan goddess of the Moon), วันที่สืบค้น 17 มกราคม 2560.
10. จาก: www.theoi.com, อีออส (Eos) เป็นเทพีที่มีรูปร่างสวยงามแห่งรุ่งอรุณ (The rosy-fingered goddess of the dawn), วันที่สืบค้น 17 มกราคม 2560. 
11. จาก. mythology.net, วันที่สืบค้น 18 มกราคม 2560.
12. จาก. greekgodsandgoddesses.net และ th.wikipedia.org, ประติมากรรมหินอ่อน "จุสตินิอานิเฮสเทีย (Giustiniani Hestia)" เฮสเทีย (Hestia) เป็นเทพีไททันรุ่นสอง เจ้าแห่งพรหมจรรย์ เจ้าแห่งเตาอิฐ สถาปัตยกรรมกรีกโบราณ การจัดระเบียบกิจกรรมในบ้าน ครอบครัวและรัฐอย่างถูกต้อง (Greek Goddess of Hearth and Domestic Life), {โรมันเรียกนางว่า เวสต้า (Vesta)}, วันที่สืบค้น 20 มกราคม 2560.
13. จาก. en.wikipedia.org/wiki/Demeter, เทพีแห่งเกษตรกรรม ความอุดมสมบูรณ์ กฎหมายศักดิ์สิทธิ์และการเก็บเกี่ยว (Goddess of agriculture, fertility, and the harvest) {โรมันเรียกนางว่า ซีรีส (Ceres)} ,วันที่สืบค้น 24 มกราคม 2560.
14. จาก. greekgodsandgoddesses.net และ en.wikipedia.org, เฮรา หรือ ฮีรา เทพีแห่งการสมรส สตรี การเกิดและครอบครัว (Hera, Greek Goddess of marriage, women, childbirth, and family), {โรมันเรียกนางว่า จูโน หรือ ยูโน (Juno)}, วันที่สืบค้น 25 มกราคม 2560.
15. จาก. https://www.pinterest.com/kanfossi/hades/, วันที่สืบค้น 25 มกราคม 2560.
16. จาก. https://global.britannica.com/topic/Poseidon, วันที่สืบค้น 25 มกราคม 2560.
17. จาก. www.greekmythology.com, วันที่สืบค้น 25 มกราคม 2560.
18. จาก. www.theoi.com, ภาพเขียนบนเครื่องเกม (เซรามิกส์?) ของชาวเอเธนส์สีแดง (Athenian red-figure pelike) ศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล ปัจจุบันอยู่ใน Metropolitan Museum of Art, นิวยอร์ค, สหรัฐอเมริกา, วันที่สืบค้น 25 มกราคม 2560.
19. จาก. www.astroadvantures.net, วันที่สืบค้น 01 กุมภาพันธ์ 2560.
20. จาก. www.hotelsegas.com, วันที่สืบค้น 01 กุมภาพันธ์ 2560.
21. จาก. en.wikipedia.org, Ida (ภาษากรีกอ่าน อิดา ภาษาอังกฤษอ่าน ไอดา) ปัจจุบันเรียกว่า ไซโรไลเทส (Psiloritis) แปลว่า ภูเขาสูง และมีถ้ำแห่งหนึ่ง (Mouth of the Idaean Cave) ตามตำนานเทพปกรณัมกรีกกล่าวว่าเป็นถ้ำที่มหาเทพซูสกำเนิดขึ้น, วันที่สืบค้น 02 กุมภาพันธ์ 2560.
ถ้ำไอเดียน หรือถ้ำแห่งเทพเจ้า (Idaean cave or Cave of the Goddess)

22. จาก. en.wikipedia.org, เทพจูปิเตอร์แห่งเมืองสเมอร์น่า (The Jupiter de Smyrne)-ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ (Louvre), กรุงปารีส ฝรั่งเศส, พบที่เมืองสเมอร์น่า (Smyrna) (เมืองแถบชายทะเลเอเจียน ด้านตะวันตกของตุรกี) เมื่อ ค.ศ.1680, วันที่สืบค้น 02 กุมภาพันธ์ 2560.
23. จาก. www.diomedia.com, ภาพ Infant Zeus Fed by the Goat Amalthea, วาดโดย Jordaens, Jacob (ค.ศ.1593-1678) ปัจจุบันเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ State Hermitage, เซ้นต์ปีเตอร์สเบิร์ก, สหพันธรัฐรัสเซีย, จากภาพแสดงให้เห็นว่าเหล่านางไม้ (The Nyphms) และพวก เซเทอร์ (The Satyrs) ช่วยกันเลี้ยงทารกเทพซูส, วันที่สืบค้น 03 กุมภาพันธ์ 2560.
24. จาก. www.explorecrete.com, เป็นภาพชื่อ "คูรีตและนิ้วของอีเดียน-Curetes and Idaean Dactyls" มีข้อมูลที่สับสนหลากหลายเกี่ยวกับคูรีต บ้างก็ว่า ขณะทีเรอากำลังให้กำเนิดทารกเทพ นางเจ็บปวดมาก นางยับยั้งการเจ็บคลอดด้วยการกดนิ้ว (Dactyls หมายถึง นิ้ว-Fingers) ลงบนพื้นพิภพ จึงเกิดเป็นชื่อเรียกนิ้ว (Dactyls) ที่เกี่ยวข้องกับงานโลหะ (Metalwork) ในโลกปัจจุบัน สี่ชื่อ ดังนี้ 1) Celmis หมายถึง เครื่องมือที่ใช้ในการหล่อโลหะ (a tool used in casting metal), 2) Acmon หมายถึง ทั่งตีเหล็กหรือตีทอง (the Anvil), 3) Damnameneus หมายถึง ค้อน (the hammer) 3) Acesidas หมายถึง ???, ซึ่งแตกต่างกับหนังสือตาม 01. (Rick Riordan), วันที่สืบค้น 04 กุมภาพันธ์ 2560.


 
info@huexonline.com