First revision: Aug.16, 2015 
อาณาจักรกรุงศรีอยุธยา ตอนที่ 2 
คณะราชทูตไทยนำโดยเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน)  (เมื่อครั้งเป็น "ออกพระวิสุทธสุนทร " ราชทูต) เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ.2229 (ค.ศ.1686) ต้นฉบับของภาพ "Nicolas III de Larmessin" - Siamese Embassy To Louis XIV, in 1686. 
 
        เท่าที่ผ่านมาตามประวัติศาสตร์ คนไทยที่อยู่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่เคยขาดแคลนอาหาร ธรรมชาติเรือกสวนไร่นา มีความอุดมสมบูรณ์ ชาวนาปลูกข้าวเพื่อบริโภคและจัดแบ่งเป็นภาษี ผลผลิตส่วนที่เหลือก็นำมาใช้สนับสนุนค้ำจุนพระศาสนา อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่คริสตศวรรษที่ 13 ถึง 15 มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในการปลูกข้าวของชาวสยาม บนที่สูงซึ่งมีปริมาณฝนไม่เพียงพอ ต้องได้รับน้ำเพิ่มจากระบบชลประทานที่ควบคุมระดับน้ำในที่นาน้ำท่วม ชาวนาหว่านเมล็ดข้าวเหนียวซึ่งเป็นผลผลิตทางการเกษตรหลักในภาคเหนือและภาคอิสานปัจจุบัน แต่ในที่ราบน้ำท่วมถึง ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ชาวนาหันมาปลูกข้าวหลายชนิด ที่เรียกว่า ข้าวขึ้นน้ำ ข้าวนาเมือง (Floating rice) เบงกอล กรุงศรีอยุธยา  เจ้าศักดินา " ได้มีการเกณฑ์แรงงานขุดลอกคลองให้สะดวกต่อการขนถ่ายสินค้า โดยเฉพาะข้าวโดยผ่านเรือหลวงและพ่อค้าวานิชส่งออกไปยังจีน.สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยา กษัตริย์ หรือเจ้าศักดินา  ผสมผสานกับเหล่าเจ้าลัทธิพราหมณ์ กรุงศรีอยุธยา  ข้าว จะนำไปใช้แลกเปลี่ยนกับสินค้าฟุ่มเฟื่อยและอาวุธยุทธภัณฑ์จากชาวตะวันตก โทเม ปิเรส  กรุงศรีอยุธยา อุดมไปด้วยสินค้าดี ๆ  กรุงศรีอยุธยา อาณาจักรกรุงศรีฯ ชาวฮอลันด้า กรุงศรีอยุธยา อาณาจักรกรุงศรีฯ  ฝรั่งเศส กรุงศรีอยุธยา บริษัทอินเดียตะวันออกของดัทช์  อาณาจักรกรุงศรีฯ  เริ่มถดถอยลงอย่างรวดเร็วในคริสต์ศตวรรษที่ 18 หรือปลาย ๆ สมัยพระเจ้าเอกทัศ.  
	มาตราเงินที่สำคัญในสมัยอยุธยา  
         เบื้ย  จั่น  เบี้ยนาง หมู่เกาะปะการังมัลดีฟ สมเด็จพระเจ้าบรมโกศ ประกับ พดด้วง อยุธยา          การผลิตเงินพดด้วง เป็นการดำเนินของทางราชการของอาณาจักรฯ ทั้งหมด นับตั้งแต่ชั่งน้ำหนักเศษเงิน ตัดแบ่ง นำไปหลอม เป็นรูปทรงกลมยาวเหมือนลูกสมอจีน แล้วจึงทุบปลายทั้งสองข้างเข้าหากัน  ใช้สิ่วบาก ที่ขาทั้งสองข้าง เพื่อให้เห็นเนื้อภายใน ซึ่งต่อมารอยบากนี้ค่อย ๆ เล็กลงจนหายไป แต่เกิดรอยที่เรียกว่า รอยเม็ดข้าวสารขึ้นมาแทน พระนารายณ์  กรุงศรีฯ ซีมง เดอ ลาลูแบร์ (Simon de La Loube're) พระเจ้าหลุยส์ที่ 14  ฝรั่งเศส สมเด็จพระนารายณ์มหาราช  Simon De La Loube're,  (21 เมษายน พ.ศ.2185 - 26 มีนาคม พ.ศ.2272)         พดด้วงชนิดอื่น ๆ นิยมตีตราเพียงตราเดียว ได้แก่ ตราสังข์ ช้าง สังข์กระหนก ที่ออกแบบให้ต่างกัน ออกไปในแต่ละรัชกาล นอกจากนี้ยังมีการผลิตพดด้วงทองคำขึ้นใช้บ้าง ในรัชกาลที่มีการค้าเฟื่องฟูมาก แต่ก็เป็นพดด้วงขนาดเฟื้องเท่านั้น และโดยเหตุที่การค้าต่างประเทศผูกผันกับปริมาณเงินพดด้วง โดยตรงอย่างใกล้ชิด เมื่อการค้ารุ่งเรืองมีเงินแท่งเข้ามามาก ทางการก็ผลิตเงินพดด้วงจำนวนมากขึ้นด้วย เพื่อใช้ซื้อสินค้าส่งไปขายต่างประเทศ ปริมาณเงินพดด้วงที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจึงมีมาก ในทางกลับกัน เมื่อการค้าต่างประเทศซบเซาลง ปริมาณเงินพดด้วงในระบบเศรษฐกิจก็ลดตามไปด้วย ด้วยความเกี่ยวพันกันนี้เอง ปริมาณเงินพดด้วงที่มีตราประจำรัชกาลเดียวกันจะมีจำนวนมากหรือน้อย นอกจากจะบอกให้ทราบถึงความสั้นหรือยาวนานในการครองราชย์ของกษัตริย์แต่ละพระองค์แล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมั่งคั่งของระบบเศรษฐกิจในแต่ละยุคแต่ละรัชกาล ได้เป็นอย่างดี.สมัยอยุธยา สมัยอยุธยาตอนต้น สมัยอยุธยา   ระบบมาตราเงินที่สำคัญในสมัยอยุธยา  
	1 ชั่ง เท่ากับ 20 ตำลึง 1 ตำลึง เท่ากับ 4 บาท 1 บาท เท่ากับ 4 สลึง 2 สลึง เท่ากับ 1 เฟื้อง 1 เฟื้อง เท่ากับ 4 ไพ 1 ไพ เท่ากับ 100 เบี้ย 2 กล่ำ เท่ากับ 1 ไพ  
	พัฒนาการทางสังคมและการเมือง  
         นับตั้งแต่การปฏิรูปของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ อาณาจักรกรุงศรีฯ ชุมชนหมู่บ้าน  ผู้นำ ผู้นำ ขุนนาง ข้าราชสำนัก  อำมาตย์ วัฒนธรรมฮินดู พระศิวะ (Siva) พระนารายณ์ (พระวิษณุ) พระพุทธศาสนาแนวมหายาน พระโพธิสัตว์  พระบรมรูปสมเด็ตพระบรมไตรโลกนาถ  (สมภพ พ.ศ.1974, ครองราชย์ พ.ศ.1991, สวรรคต พ.ศ.2031), 
         เมื่อ อาณาจักรกรุงศรีฯ  มีที่ดินสำรองเพียงพอสำหรับการกสิกรรม  อาณาจักรกรุงศรีฯ  จึงอาศัยการได้มาและการควบคุมกำลังคนอย่างเพียงพอ เพื่อใช้เป็นผู้ใช้แรงงานในไร่นาและการป้องกันประเทศ การเติบโตอย่างรวดเร็วของ อาณาจักรกรุงศรีฯ  นั้น นำมาซึ่งก ารทำสงครามอย่างต่อเนื่อง  และเนื่องจากไม่มีแว่นแคว้นใดในภูมิภาคมีความได้เปรียบทางด้านเทคโนโลยี ผลแห่งการรบ จึงมักตัดสินด้วยขนาดของกองทัพ หลังจากที่กองทัพ อาณาจักรกรุงศรีฯ  ได้ชัยชนะในแต่ละครั้ง  อาณาจักรกรุงศรีฯ  ได้กวาดต้อนผู้คนที่ถูกพิชิต กลับมายัง อาณาจักรกรุงศรีฯ  ส่วนหนึ่ง ที่ซึ่งพวกเขาจะถูกกลืนและเพิ่มเข้าไปในกำลังแรงงาน.  สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2  ( ครองราชย์ พ.ศ.2034-2072 ) ได้สถาปนา ระบบกอร์เว (Corve'e )2   แบบไทยขึ้น ซึ่งเสรีชน (คนไทยที่ทำมาหากินการค้า เกษตรกรรมทั่วไป) จะต้องขึ้นทะเบียนเป็น ข้า  (หรือ  ไพร่ ) กับเจ้านายท้องถิ่น เป็นการใช้แรงงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใด ๆ ไพร่ชายต้องถูกเกณฑ์ในยามเกิดศึกสงคราม เหนือกว่าไพร่คือ  นาย  ผู้รับผิดชอบต่อราชการทหาร แรงงานกอร์เวในการโยธาสาธารณะ และบนที่ดินของข้าราชการที่ไพร่สังกัด  ไพร่ส่วย  จ่ายภาษีแทนการใช้แรงงาน หากไพร่ ชิงชังต่อการใช้แรงงานแบบบังคับภายใต้นาย ไพร่ก็สามารถขายตัว เป็นทาสแก่นายหรือเจ้าที่น่าดึงดูดกว่า ผู้ที่จะจ่ายค่าตอบแทนแก่การสูญเสียแรงงานกอร์เว จนถึงคริสตศตวรรษที่ 19 กำลังคนกว่าหนึ่งในสามเป็นไพร่. 
         ระบบไพร่เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างมากเมื่อเทียบกับสมัยสุโขทัย โดยกำหนดให้ชายทุกคนที่สูงตังแต่ 1.25 เมตรขึ้นไปต้องลงทะเบียนไพร่ ระบบไพร่มีความสำคัญต่อการรักษาอำนาจทางการเมืองของพระมหากษัตริย์ เพราะหากเจ้านายหรือขุนนางเบียดบังไพร่ไว้เป็นจำนวนมากแล้ว ย่อมส่งผลต่อเสถียรภาพของราชบัลลังก์ ตลอดจนส่งผลให้กำลังในการป้องกันอาณาจักรอ่อนแอ ไม่เป็นปึกแผ่น นอกจากนี้ ระบบไพร่ยังเป็นการเกณฑ์แรงงานเพื่อใช้ประโยชน์ในโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานชีวิตและความมั่นคงของอาณาจักร. 
        ความมั่งคั่ง สถานภาพ และอิทธิพลทางการเมืองสัมพันธ์ร่วมกัน พระมหากษัตริย์ทรงแบ่งสรรไร่นาให้แก่ข้าราชสำนัก อำมาตย์ เจ้าเมืองชั้นในชั้นนอกต่าง ๆ นายทหาร ขุนศึกต่าง ๆ เป็นการตอบแทนความดีความชอบที่มีต่อพระองค์ ตามระบอบศักดินา ขนาดของการแบ่งสรรแก่ข้าราชบริพาร อำมาตย์แต่ละคนนั้นตัดสินจากจำนวนไพร่หรือสามัญชนที่เขาสามารถบัญชาให้ทำงานได้ จำนวนกำลังคนที่ผู้นำหรืออำมาตย์สามารถบัญชาได้นั้น ขึ้นอยู่กับสถานภาพของอำมาตย์แต่ละคน ลำดับขั้นต่าง ๆ และความมั่งคั่งของอำมาตย์ ที่ยอดของลำดับขั้น กษัตริย์เป็นเสมือนผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ที่สุดในราชอาณาจักร โดยหลักการแล้วกษัตริย์บัญชาปกครองไพร่จำนวนมากที่สุด เรียกว่า ไพร่หลวง มีหน้าที่จ่ายภาษี รับราชการในกองทัพ และทำงานบนที่ดินของกษัตริย์. 
        อย่างไรก็ดี การเกณฑ์กองทัพขึ้นอยู่กับมูลนาย ที่บังคับบัญชาไพร่สมของตนเอง มูลนายเหล่านี้จำต้องส่งไพร่สมให้อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของกษัตริย์ในยามศึกสงคราม ฉะนั้นมูลนายจึงเป็นบุคคลสำคัญในการเมืองของอยุธยา  
        สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ  
        พระสงฆ์อยู่นอกระบบนี้ ซึ่งชายไทยทุกชนชั้นสามารถเข้าสู่ชนชั้นนี้ได้ รวมถึงชาวจีนด้วย วัดได้กลายมาเป็นศูนย์กลางการศึกษาและวัฒนธรรม ระหว่างช่วงนี้ ชาวจีนเริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานในอยุธยา อาณาจักรอยุธยา.  
        พระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ธรรมศาสตร์ (Dharmashastra) ธรรมศาสตร์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ราชวงศ์ตองอู (Taungoo Dynasty)  กรุงศรีอยุธยา ราชวงศ์ตองอู เ กรุงศรีอยุธยา พระนเรศ สมเด็จพระนเรศ กรุงศรีอยุธยา  
 
          กลุ่มชาติพันธุ์             ในช่วงปลายพุทธศตรวรรษที่ 20 อาณาจักรอยุธยา ลาลูแบร์ ไทยสยาม ไทยสยาม  ลาลูแบร์  สมเด็จพระนารายณ์มหาราช  
        เอกสารจีนที่บันทึกโดยหม่าฮวนได้กล่าวไว้ว่า ชาวเมืองพระนครศรีอยุธยา รัฐอโยธยาศรีรามเทพนคร  
 
ภาพชาวสยามจากจดหมายเหตุลาลูแบร์ พ.ศ.2236         ด้วยเหตุที่กรุงศรีอยุธยา กรุงศรีอยุธยา แขกขอมลาวพม่าเมงมอญมสุมแสงจีนจามชวา... " ซึ่งมีการเรียกชนพื้นเมืองที่อาศัยปะปนกันโดยไม่จำแนกว่า ชาวสยาม ในจำนวนนี้มีชาวมอญอพยพเข้ามาในสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช(พระ-นะ-เรด-วอ-ระ-มหาราช)) สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ  ราชวงศ์ตองอู กรุงศรีอยุธยา กรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระราเมศวร สมเด็จพระนารายณ์มหาราช  
        นอกจากชุมชนชาวเอเชียที่ถูกกวาดต้อนมาแล้ว ก็ยังมีชุมชนของกลุ่มผู้ค้าขายและผู้เผยแพร่ศาสนาทั้งชาวเอเชียจากส่วนอื่นและชาวตะวันตก เช่น ชุมชนชาวฝรั่งเศสที่บ้านปลาเห็ด ปัจจุบันอยู่ทางทิศใต้นอกเกาะอยุธยา เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ปทาคูจาม  มีบทบาทสำคัญด้านการค้าทางทะเล และตำแหน่งในกองทัพเรือ เรียกว่า อาษาจาม  และเรียกตำแหน่งหัวหน้าส่า พระราชวังสัน  
 
โขนต้องเจรจาด้วยเสียงเหน่อ ซึ่งถือเป็นสำเนียงหลวงเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยา 
         ภาษา         สำเนียงดั้งเดิมของกรุงศรีอยุธยา กรุงศรีอยุธยา กรุงศรีอยุธยา ขนบ กรุงศรีอยุธยา ขนบ กรุงศรีอยุธยา กรุงศรีอยุธยา กรุงศรีอยุธยา  
 
	ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ  
ได้ส่งเครื่องราชบรรณาการไปถวายแล้วก็จะได้เครื่องราชบรรณาการกลับมาเป็นมูลค่าสองเท่า ทั้งยังเป็นธุรกิจที่ไม่มีความเสี่ยง จึงมักจะมีขุนนางและพ่อค้าเดินทางไปพร้อมกับการนำเครื่องราชบรรณาการไปถวายด้วย.อาณาจักรอยุธยา อาณาจักรอยุธยา  
 
ป้อมของโปรตุเกสที่เมืองมะละกา ช่วง พ.ศ. 2173 (ค.ศ.1630) 
        พ.ศ.2054 ทันทีหลังจากที่โปรตุเกสยึดครองมะละกา โปรตุเกสได้ส่งผู้แทนทางการทูต นำโดย ดูอาร์เต เฟอร์นันเดส (Duarte Fernandes)  มายังราชสำนักสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2   กษัตริย์องค์ที่ 10 ของกรุงศรีอยุธยา  ) หลังได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างราชอาณาจักรโปรตุเกสและราชอาณาจักรอยุธยา อยุธยา  ซึ่งมีของกำนัลและพระราชสาสน์ถึงกษัตริย์ของโปรตุเกส (King of Portugal Manuel I) ราชอาณาจักรอยุธยา  
        ชาวต่างชาติได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นที่ราชสำนักสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อยุธยา ไปยังกรุงปารีสและกรุงเฮก ด้วยการธำรงไว้ซึ่งความสัมพันธ์เหล่านี้ ราชสำนักอยุธยา  
 
เจ้าพระยาวิชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) 
         อย่างไรก็ดี ใน พ.ศ.2207 ดัทช์ใช้กำลังบังคับเพื่อให้ได้สนธิสัญญาที่ให้สิทธิสภาพนอกอาณาเขต เช่น เดียวกับการเข้าถึงการค้าอย่างเสรี คอนสแตนติน ฟอลคอน (Constantine Phaulkon)  (เจ้าพระยาวิชเยนทร์) 03  นักผจญภัยชาวกรีกผู้เข้ามาเป็นเสนาบดีต่างประเทศในราชสำนักสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระนารายณ์  
        อาณาจักรอยุธยา อาณาจักรอยุธยา กรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนารายณ์ พระเพทราชา พระนารายณ์มหาราช ฟอลคอน พระเพทราชา อยุธยา อยุธยา  
อยุธยา ศูนย์กลางการค้านานาชาติมีตลาดน้ำ-บก, ในเมือง-นอกเมือง, ย่านการผลิต 04 การค้านานาชาติ เป็นที่ปรากฎรจนา                           สรรเสริญอยุธยาทุกแห่งหน ทุกบุรีสีมามณฑล จบสกลลูกค้าวาณิช " และ "ทุกประเทศสิบสองภาษา ย่อมมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาอยู่อัคนิต " เป็นพวกไหนบ้าง? เรื่องนี้มีหลักฐานอยู่ในกฎมณเฑียรบาลที่กล่าวถึงชนกลุ่มต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในพระนครศรีอยุธยาว่ามี "พิริยหมู่แขกขอมลาวพม่าเมงมอญ มสุมแสงจีนจามชวานานา ประเทษทังปวง " และยังมีร่องรอยอยู่ในคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม (เอกสารจากหอหลวง) ตอนหนึ่งว่าครั้นถึงระดูลมสำเภาพัดเข้ามาในกรุง เปนมรสุมเทศกาลพวกลูกค้าพานิชสำเภาจีน แลลูกค้าแขกสลุปลูกค้าฝรั่งกำปั่น ลูกค้าแขกกุศราช แลพวกลูกค้าแขกสุรัด แขกชวามลายู แขกเทศ ฝรั่งเสศ ฝรั่งโลสง โปรตุเกศ วิลันดา อิศปันยอน อังกฤษ แลฝรั่งดำ ฝรั่งเมืองลังกุนี แขกเกาะ เปนพ่อค้าพานิชคุมสำเภาสลุปกำปั่นแล่นเข้ามาทอดสมออยู่ท้ายคู ขนสินค้าขึ้นมาไว้บนตึกห้างในกำแพงพระนครกรุงศรีอยุธยา ตามที่ของตนซื้อแลเช่าต่าง ๆ กัน เปิดร้านห้างตึกขายของตามเพศตามภาษา " (อักขรวิธีตามต้นฉบับ)
กำปั่นฮอลันดาสลักบนแผ่นจารึกทองแดงที่ชาวดัตท์ในประเทศไทยร่วมกันสร้างเมื่อ พ.ศ.2499 ประดับโบราณสถานที่ตั้งบ้านฮอลันดา จ.พระนครศรีอยุธยา. 
ที่มา คำศัพท์ และคำอธิบาย: 01.  จาก . th.wikipedia.org/wiki/อาณาจักรอยุธยา, วันที่สืบค้น 16 สิงหาคม 2558.02.  หมายถึง  แรงงานเกณฑ์ (ฝรั่งเศส: Corve'e 03.  คอนแสตนติน ฟอลคอน ได้แต่งงานกับมารีอา กูโยมาร์ เด ปิญญา(Maria Guyomar de Pinha) แต่มักจะเรียกกันว่า มารี กีมาร์ (ท้าวทองกีบม้า) ซึ่งภายหลัง เป็นผู้ประดิษฐ์ขนมไทยหลายอย่าง.04.  จาก . www.matichon.co.th/news/205555, โดยสุจิตต์ วงษ์เทศ, วันที่สืบค้น 23 กรกฎาคม 2559.