สมัยอยู่ภายใต้การปกครองของสยามเทศะ01. |
สมัยอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา |
นครธม (พ.ศ.1896-พ.ศ.1931) |
ช่วงเวลา |
เหตุการณ์ |
ความสัมพันธ์/เหตุการณ์ Timeline เทียบกับสยามเทศะ02 |
หมายเหตุ |
พ.ศ.1896 |
สยามเทศะตีนครธมแตก แต่เมืองนครธม ก็ยังมีพระมหากษัตริย์ครองราชย์สืบต่อไป |
พระเจ้าอู่ทองสถาปนากรุงศรีอยุธยา พ.ศ.1893 ต่อมาอีก 3 ปี ก็ให้สมเด็จพระราเมศวรพระโอรสไปตีเมืองกัมพูชา และให้ขุนหลวงพะงั่ว ยกทัพไปช่วย |
ในบางเอกสาร การศึกที่พระเจ้าอู่ทองทรงชนะศึกครั้งนี้ จึงได้ตั้งเมือง "อู่ทองมีชัย" ขึ้น (อุดรมีชัย) เพื่อประกาศชัยชนะเหนือกัมพูชา มีประเด็นที่น่าสนใจ ทำไมพระเจ้าอู่ทองซึ่งเพิ่งทรงตั้งกรุงศรีอยุธยาได้ไม่นานนัก จึงรีบยกทัพปราบพระบรมลำพงศ์ที่เมืองนครธม? มีความใกล้ชิดกันแล้วแตกแยกแค้นเคืองกันภายหลังหรือเปล่า ? |
พ.ศ.1896-1898 |
พระบากระษัตร (บ้างก็เรียก ปาสัต) |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง (พ.ศ.1893-1912) ต่อด้วยสมัยสมเด็จพระราเมศวร ครั้งที่ 1 (พ.ศ.1912-1913) |
พระโอรสของพระบรมลำพงศ์ |
พ.ศ.1898-1900 |
พระบาอัฐ |
|
พ.ศ.1900-1900 |
พระดำบองพิท |
|
พ.ศ.1900-1909 |
พระศรีสุริโยวงษ์ |
|
พ.ศ.1909-1913 |
พระบรมรามา |
|
พ.ศ.1913-1916 |
พระธรรมโศกราช |
ตรงกับสมัยขุนหลวงพะงั่ว (พ.ศ.1913-1931)
|
|
พ.ศ.1916 |
สยามเทศะตีนครธมแตก แต่กัมพูชายังมีพระมหากษัตริย์ครองราชย์ต่อไป |
|
พ.ศ.1916 |
พระอินทราชา |
|
พ.ศ.1916-1931 |
พระบรมราชารามาธิบดีที่ 1 หรือ พระบรมราชาเจ้าพระยาญาติ (Barom Reachea I) |
|
กรุงจตุรมุข (พ.ศ.1931-พ.ศ.2083) |
พ.ศ.1931-1976 |
พระบรมราชารามาธิบดีที่ 2 หรือ พระบรมราชาเจ้าพระยาญาติ (Barom Reachea II) |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระอินทราชา (เจ้านครอินทร์) (พ.ศ.1938-1952) ต่อด้วยเจ้าสามพระยา (พ.ศ.1967-1991) |
ย้ายมายังกรุงจตุรมุข พระยาญาติทรงปกครองต่อ |
พ.ศ.1976-1980 |
พระนารายณ์รามาธิบดี |
|
พ.ศ.1980-2011 |
พระศรีราชาและพระศรีสุริโยไทยราชา |
ตรงกับสมัยเจ้าสามพระยา ถึง สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 (....พ.ศ.2072) |
แย่งราชสมบัติกัน |
พ.ศ.2011-2047 |
พระธรรมราชาธิราชรามาธิบดี |
|
พ.ศ.2047-2055 |
พระศรีสุคนธบท |
|
พ.ศ.2051-2081 |
เจ้ากอง |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช (พ.ศ.2077-2089) |
ก่อกบฏ |
พ.ศ.2059-2083 |
เจ้าพระยาจันทราชา |
|
กรุงละแวก (พ.ศ.2083-พ.ศ.2140) |
พ.ศ.2083-2109 |
เจ้าพระยาจันทราชา |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช (พ.ศ.2077-2089) ถึงสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช (พ.ศ.2112-2133) |
เจ้าพระยาจันทรราชา ทรงย้ายเมืองหลวงมายังกรุงละแวก |
พ.ศ.2109-2119 |
สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 (พระยาละแวก - Barom Reacha III) |
|
พ.ศ.2119-2137 |
สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (นักพระสัตถา) |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระนเรศ (พ.ศ.2133-2148) |
ครองราชย์ร่วมกับพระราชโอรส |
พ.ศ.2137 |
สยามเทศะตีเมืองละแวกแตก แต่ยังมีพระมหากษัตริย์ครองราชย์ต่อไป |
มีบันทึกแสดงไว้ อ้างจากการบรรยายของ อาจารย์ ดร.วินัย พงศ์ศรีเพียร "ล้านนามหาปกรณัม" เมื่อเดือนมีนาคม 2564. ทหารไทยใช้กลวิธีโรยเงินทองไว้หน้าประตูเมืองละแวก ทหารละแวกเผลอและย่ามใจ เปิดประตูเมืองมาเก็บเงินทอง จึงเสียทีแก่ทหารสยามเทศะของพระนเรศ |
พ.ศ.2137-2139 |
พระเชษฐาแห่งเจิงเปรย (Chettha Chung Prey) |
|
พ.ศ.2139-2140 |
พระบรมราชารามาธิบดีที่ 3 (Barom Reacha III) |
|
กรุงศรีสุนทร (พ.ศ.2140-พ.ศ.2162) |
พ.ศ.2140-2142 |
พระบรมราชารามาธิบดีที่ 3 (Barom Reacha III) |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระนเรศ (พ.ศ.2133-2148) |
พระบรมราชารามาธิบดีที่ 3 ทรงย้ายเมืองหลวงมากรุงศรีสุนทร |
พ.ศ.2142-2143 |
เจ้าพระยาญม (Chau Ponhea Nhom) |
|
พ.ศ.2143-2145 |
พระแก้วฟ้าที่ 1 |
|
พ.ศ.2144-2161 |
พระบรมราชารามาธิบดีที่ 4 (Barom Reacha IV) |
ตรงกับสมัยพระเอกาทศรถ (พ.ศ.2148-2153) |
|
พ.ศ.2161-2162 |
พระไชยเชษฐาที่ 1 (Chettha I) |
|
กรุงอุดงฦๅไชย (พ.ศ.2162-พ.ศ.2384) |
พ.ศ.2162-2170 |
พระไชยเชษฐาที่ 1 (Chettha I) |
ตรงกับสมัยพระเจ้าทรงธรรม (พ.ศ.2154-2171) |
พระไชยเชษฐาที่ 1 ทรงย้ายเมืองหลวงมากรุงอุดงฦๅไชย |
พ.ศ.2170-2177 |
พระศรีธรรมราชาที่ 1 (Thommo Reachea I) |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระเชษฐาธิราช-พระอาทิตยวงศ์-พระเจ้าปราสาททอง-สมเด็จเจ้าฟ้าไชย-สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา (พ.ศ.2171-2199) |
|
พ.ศ.2178-2182 |
พระองค์ทรงราชาธิราชธิบดี |
|
พ.ศ.2182-2184 |
พระปทุมราชาที่ 1 |
|
พ.ศ.2184-2201 |
พระรามาธิบดีที่ 1 |
|
พ.ศ.2202-2215 |
พระปทุมราชาที่ 2 |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ.2199-2231) |
|
พ.ศ.2215-2216 |
พระปทุมราชาที่ 3 |
|
พ.ศ.2216-2219 |
พระแก้วฟ้าที่ 2 |
|
พ.ศ.2219-2230 |
พระไชยเชษฐาที่ 2 รัชสมัยที่ 1 (Chettha II) |
|
พ.ศ.2230-2231 |
ว่างกษัตริย์ |
|
พ.ศ.2231-2238 |
พระไชยเชษฐาที่ 2 รัชสมัยที่ 2 |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระเพทราชา (พ.ศ.2231-2246) |
|
พ.ศ.2238-2239 |
พระรามาธิบดีที่ 2 |
|
พ.ศ.2239-2243 |
พระไชยเชษฐาที่ 2 รัชสมัยที่ 3 |
|
พ.ศ.2243-2244 |
พระแก้วฟ้าที่ 3 รัชสมัยที่ 1 |
|
พ.ศ.2244-2245 |
พระไชยเชษฐาที่ 2 รัชสมัยที่ 4 |
|
พ.ศ.2245-2247 |
พระศรีธรรมราชาที่ 2 (Thommo Reachea II) รัชสมัยที่ 1 |
ตรงกับสมัยพระเจ้าเสือ (พ.ศ.2246-2251) |
|
พ.ศ.2247-2252 |
พระไชยเชษฐาที่ 2 รัชสมัยที่ 5 |
|
พ.ศ.2252-2256 |
พระศรีธรรมราชาที่ 2 (Thommo Reachea II) รัชสมัยที่ 2 |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ (พ.ศ.2251-2275) |
|
พ.ศ.2256-2265 |
พระแก้วฟ้าที่ 3 รัชสมัยที่ 2 |
|
พ.ศ.2265-2272 |
พระสัตถา รัชสมัยที่ 1 (Satha) |
|
พ.ศ.2272-2272 |
พระแก้วฟ้าที่ 3 รัชสมัยที่ 3 |
|
พ.ศ.2272-2280 |
พระสัตถา รัชสมัยที่ 2 |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พ.ศ.2275-2301) |
|
พ.ศ.2280-2290 |
พระศรีธรรมราชาที่ 2 รัชสมัยที่ 3 |
|
พ.ศ.2290-2291 |
พระรามาธิบดีที่ 3 รัชสมัยที่ 1 |
|
พ.ศ.2292-2298 |
พระศรีไชยเชฐ |
|
พ.ศ.2298-2300 |
พระรามาธิบดีที่ 3 รัชสมัยที่ 2 |
|
พ.ศ.2301-2318 |
พระนารายณ์ราชารามาธิบดี |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระเจ้าอุุทมพร-พระเจ้าเอกทัศ-สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (พ.ศ.2301-2325) |
|
พ.ศ.2318-2322 |
พระรามราชาธิราช |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (พ.ศ.2301-2325) |
|
พ.ศ.2322-2339 |
พระนารายณ์ราชาธิราช |
ตรงกับสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี-รัชกาลที่ 1 กรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.2301-2339) |
|
พ.ศ.2339-2349 |
ว่างกษัตริย์ |
ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 กรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.2325-2352) |
|
พ.ศ.2349-2377 |
พระอุไทยราชาธิราช |
ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 2 กรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.2352-2367) ต่อด้วยรัชกาลที่ 3 กรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.2367-2394) |
|
พ.ศ.2377-2383 |
สมเด็จพระราชินีนาถองค์มี (นักองเม็ญ)
10
|
พระองค์เม็ญ หรือพระองค์เจ้ามี เป็นพระมหากษัตริย์ (กษัตรี) แห่งอาณาจักรเขมรอุดง หลังสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดีเสวยทิวงคตในช่วงสงครามอานัมสยามยุทธ พระเจ้ากรุงญวนจึงขุนนางจัดพระราชพิธีอภิเษกให้พระองค์เม็ญเสวยราชย์แทนพระราชบิดาขณะพระชนมายุ 20 พรรษา เพราะในช่วงเวลานั้นเจ้านายเขมรที่เป็นชายเข้าไปพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระเจ้ากรุงสยาม คงเหลือแต่เจ้านายเขมรผู้หญิง10. |
พ.ศ.2383-2384 |
ว่างกษัตริย์ |
|
พ.ศ.2384-2403 |
สมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดี (นักองด้วง) |
|
พ.ศ.2403-2447 |
สมเด็จพระนโรดมพรหมบริรักษ์ (นักองราชาวดี) |
ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 4 กรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.2394-2411) ต่อด้วยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ.2411-2453) ต่อด้วยรัชกาลที่ 6 (พ.ศ.2453-2468) |
กัมพูชาพ้นจากความเป็นประเทศราชของสยาม และกลายเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ.2406 |
พ.ศ.2447-2470 |
พระบาทสมเด็จพระศรีสวัสดิ์ (นักองศรีสวัสดิ์) รายละเอียดภาพดู 03.
|
ไทยได้เสียดินแดนให้ฝรั่งเศสแถบนครจำปาศักดิ์ รวมถึงเมืองเชียงแตง หรือ สะตึงเตรง ร.ศ.122 หรือ พ.ศ.244609 |
พ.ศ.2470-2484 |
พระบาทสมเด็จพระศรีสวัสดิ์มุนีวงศ์ (นักองศรีสวัสดิ์มุนีวงศ์) รายละเอียดภาพดู 08.
|
ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 7 กรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.2468-2478) ต่อด้วยรัชกาลที่ 8 (พ.ศ.2478-2489) |
|
พ.ศ.2484-2498 |
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหนุ |
ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 9 กรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.2489-2559) |
กัมพูชาได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสโดยสมบูรณ์ พ.ศ.2496 |
พ.ศ.2498-2503 |
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสุรามฤต05.
|
พระบิดาของพระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ |
พ.ศ.2503-2536 |
ตำแหน่งถูกยกเลิก |
|
พ.ศ.2536-2547 |
พระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ04.
|
|
พ.ศ.2547-ปัจจุบัน |
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนี |
พระโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ |