MENU
TH EN
                                                                                
พ่อแม่คือกระดูกชิ้นแรกสำหรับการลับเขี้ยวของลูก
(จากภาพยนตร์ เรื่อง Wall Street 2 - Money Never Sleeps)

ที่มา: "น้ำจิ้มอาหารสมอง" มติชนรายสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554 โดย รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ

1. ...อย่าเบื่อคำสอน...

อย่านอนตื่นสาย           อย่าอายทำกิน
อย่าหมิ่นเงินน้อย          อย่าคอยวาสนา
อย่าเสวนาคนชั่ว          อย่ามั่วอบายมุข
อย่าสุกก่อนห่าม           อย่าพล่ามก่อนทำ
อย่ารำก่อนเพลง           อย่าข่มเหงผู้น้อย
อย่าคอยแต่ประจบ          อย่าคบแต่เศรษฐี
อย่าดีแต่ตัว                    อย่าชั่วแต่คนอื่น
อย่าฝืนกฎระเบียบ          อย่าเอาเปรียบสังคม
อย่าชื่นชมคนผิด          อย่าคิดเอาแต่ได้
อย่าใส่ร้ายคนดี          อย่ากล่าววจีมุสา
อย่านินทาพระเจ้า(สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า)         อย่าขลาดเขลาเมื่อมีทุกข์
อย่าสุขจนลืมตัว            อย่าเกรงกลัวงานหนัก
อย่าพิทักษ์พาลชน          อย่าลืมตนเมื่อมั่งมี
...อย่าหนีความจริง...
ที่มา: จาก Facebook (เมื่อสืบค้นเพื่อหาผู้ส่งข้อความต้นเรื่องอีกครั้ง ก็พบ Message ว่า
"There are no more posts to show right now." จึงต้องขออภัยแหล่งที่มาที่แท้จริงไว้ ณ ที่นี้ด้วย)
สืบค้นเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 06:03 น.

2. คำโกหก 8 ประการที่คนเป็นแม่มักพูด
 
 1)  ถ้าข้าวไม่พอกิน แม่มักจะพูดโกหกว่า แม่ไม่หิว
 2)  ถ้าที่บ้านยากจน แม่มักพูดโกหกว่า แม่ไม่ชอบเสื้อผ้าใหม่
 3)  ถ้าของกินมีน้อย แม่มักพูดโกหกว่า แม่ไม่ชอบกิน
 4)  ถ้านอนดึก ตื่นเช้า แม่มักพูดโกหกว่า แม่ไม่เหนื่อย
 5)  ถ้าโรยแรงเพราะเหนื่อยล้า แม่มักพูดโกหกว่า แม่ไม่เป็นไร
 6)  ถ้าออกไปนอกบ้าน เงินไม่พอซื้อน้ำดื่ม แม่มักพูดโกหกว่า แม่ไม่กระหายน้ำ
 7)  ถ้าฝากเงินมาให้แม่ แม่มักพูดโกหกว่า แม่ไม่ขาดเงิน
 8)  ถ้าเมื่อแม่เจ็บป่วย นอนโรงพยาบาล แม่มักพูดโกหกว่าแม่ไม่ป่วย
  
ที่มา: จาก Facebook เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2555 ต้นฉบับเป็นภาษาเวียดนาม
8 CÂU “NÓI D?I” TH??NG HAY NÓI TRONG CU?C ??I C?A M?
1?C?m k...hông ?? ?n. M? nói : M? không ?ói.
2?Nhà nghèo. M? nói : M? không thích qu?n áo m?i.
3?Th?c ?n ít. M? nói : M? không thích ?n.
4?D?y s?m th?c khuya. M? nói : M? không m?t.
5?Ki?t s?c vì m?i m?t. M? nói : M? không sao.
6?Ra ???ng không ?? ti?n mua n??c u?ng. M? nói : M? không khát.
7?G?i ti?n cho m?. M? nói : M? không thi?u ti?n.
8?Khi b?nh n?m trên gi??ng. M? nói : M? không ?au.
ผู้แปลเป็นบุคลากรของหอการค้าไทย เครดิตขอมอบให้แก่คุณสุรศักดิ์ มิ่งเจริญพาณิชย์
 
พระคุณแม่กว้าง เพียงพสุธา...ผมรักแม่ครับ..!!

 
3. พ่อแม่คือกระดูกชิ้นแรกสำหรับการลับเขี้ยวของลูก
(จากภาพยนตร์ เรื่อง Wall Street 2 - Money Never Sleeps)
 
ที่มา: น้ำจิ้มอาหารสมอง, มติชนรายสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554 โดย รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ
 
 
4. สิ่งสำคัญที่ "เจ.เค.โรลลิ่ง" บอกกับบัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2551 "เจ.เค.โรลลิ่ง" ได้รับเชิญไปปาฐกถาในงานประสาทปริญญาแก่บัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ณ เมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา

เธอบอกกับบัณฑิตทุกคนว่า เรื่องที่เธออยากจะพูด คือ สิ่งที่เธอคิดว่าควรจะรู้ตอนรับปริญญา แต่ไม่ได้รู้ และสิ่งที่เธอเรียนรู้จากช่วงเวลา 21 ปีหลังจบการศึกษา เรื่องนั้นคือ... "ประโยชน์ของความล้มเหลว"
 
...สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดตอนที่อายุเท่ากับพวกคุณ ไม่ใช่ "ความจน" หากเป็น "ความล้มเหลว"
"พรสวรรค์และสติปัญญาไม่เคยเป็นภูมิคุ้มกันให้ใครรอดพ้นจากความไม่แน่นอนของโชคชะตาไปได้"
"เจ.เค.โรลลิ่ง" บอกว่า แรงขับของคนที่จบจาก "ฮาร์วาร์ด" อาจเกิดขึ้นได้ทั้งจาก "ความกลัวจากความล้มเหลว" หรือ " ความปรารถนาในความสำเร็จ" ก็ได้
แต่ไม่มีใครจะหลีกเลี่ยง "ความล้มเหลว" ได้
การล้มเหลวในบางครั้งของชีวิตเป็นเรื่องธรรมดา
"ยกเว้นแต่คุณจะใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากเสียจนไม่เกิดมาเลยจะดีกว่า ซึ่งในกรณีนั้นเท่ากับว่าคุณล้มเหลวโดยอัตโนมัติ"
"เจ.เค.โรลลิ่ง" เล่าว่า หลังจากจบจากมหาวิทยาลัย ชีวิตของเธอได้เดินหน้าสู่ "ความล้มเหลว" อย่างเต็มตัว
7 ปี หลังจากนั้น เธอล้มเหลวเรื่อง "ชีวิตคู่" ต้องเลี้ยงดูลูกคนเดียว
ล้มเหลวเพราะไม่มีงานทำ และล้มเหลว เพราะ "จน" ที่สุดเท่าที่จะจนได้ในประเทศอังกฤษสมัยใหม่ โดยยังไม่เป็นคนจรจัด หลายคนเคยพูดถึงเธอว่าเป็นการคลี่คลายอย่างน่ามหัศจรรย์ราวกับนิทานสำหรับเด็ก
แต่เธอบอกเลยว่า "ความล้มเหลว" ไม่ใช่เรื่องสนุก
"ฉันไม่รู้เลยว่า อุโมงค์นั้นจะยาวขนาดไหน และเป็นเวลานานมากที่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ถ้ามันจะมี ก็เป็นเพียงความหวังของฉัน ไม่ใช่ความจริง"
-------

แล้ว "ประโยชน์" ของ "ความล้มเหลว" คืออะไร
คำตอบสั้น ๆ จากเธอ ก็คือ ความล้มเหลวได้บังคับให้เราต้องถอดรื้อสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่สำคัญ  "ฉันหยุดหลอกตัวเองว่า ฉันเป็นอะไรที่มากกว่าที่ฉันเป็น แล้วก็เริ่มทุ่มเทพลังงานให้กับการทำงานเดียวที่สำคัญสำหรับฉันให้เสร็จ"
เธอบอกว่า ถ้าช่วงเวลาที่ผ่านมา เธอประสบความสำเร็จในเวทีเดียวที่เชื่อว่าเป็นเวทีของเธอจริง ๆ
และนั่นคือที่มาของ "แฮรี่ พ็อตเตอร์"
นวนิยายที่เปี่ยมด้วยจินตนาการและพลังแห่งความมุ่งมั่นของเธอ
--------

"ความล้มเหลว" ได้ปลดปล่อย "เจ.เค.โรลลิ่ง" ให้พ้นจาก "จินตนาการ" ที่หลอกตัวเองว่า เธอเป็นอะไรมากกว่าที่เธอเป็น
ผมเชื่อว่า นี่คือประเด็นที่เธออยากบอกคนหนุ่มสาวที่ก้าวพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัย "ความฝัน" และ "ความเชื่อมั่น" เป็นสิ่งที่จำเป็นของมนุษย์ แต่ "ความจริง" คือ โลกใต้ฝ่าเท้าที่เรายืนอยู่ และ "ความล้มเหลว" คือ โฟมล้างหน้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการล้างเครื่องสำอางแห่ง "ความฝัน" และ "ความเชื่อมั่น" ที่เคลือบอยู่บนใบหน้าของเรา
หลังจากปล่อยให้ "ความล้มเหลว" จัดการพันธนาการต่าง ๆ ที่ "ไม่จริง" จนหมดสิ้น เธอก็ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ แม้ "ความล้มเหลว" ได้กลายเป็นความจริง"
"แต่ฉันยังมีชีวิตอยู่"
สิ่งที่เธอมีในวันนั้นก็คือ 1. มีลูกสาวที่เธอรัก 2. มีเครื่องพิมพ์ดีดเก่า ๆ 1 เครื่อง และ 3. เธอมี "ไอเดีย" ที่ยิ่งใหญ่
--------

ประโยคต่อมาเป็นประโยคที่ผมชอบที่สุดในปาฐกถาครั้งนี้ "ก้นเหวจึงเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งให้ฉันสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่"
ครับ...ถ้าเราไม่ยอมรับ "ความจริง" ว่าเราล้มเหลว ยังแหวกว่ายอยู่ในหุบเหวของความล้มเหลว โดยใช้จินตนาการที่หลอกตัวเองเป็นเครื่องพยุงตัว ไม่ยอมปล่อยตัวเองให้ถึงก้นเหว
เพราะหลักของการ "ลุก" เมื่อเรา "ล้ม" ก็คือ ต้องดันตัวเองขึ้นมาโดยใช้พื้นเป็นฐานยันตัว
การลอยอยู่ในอากาศ เราจะไม่มีอะไรเป็นฐานในการดันตัวขึ้นเลย
แต่เมื่อเรายอมดิ่งตัวเองจนถึง "ก้นเหว" เมื่อไหร เราจะมี "ก้นเหว" เป็นจุดค้ำยันและผลักตัวเองให้กระโดดขึ้นมาจากหุบเหวแห่ง "ความล้มเหลว" ได้สำเร็จ
---------

"ความล้มเหลวมอบความมั่นคงทางจิตใจให้กับฉัน...ความล้มเหลวสอนเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวฉันเองที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยโดยวิธีอื่น"
สิ่งที่เธอได้รับก็คือ เธอมีความมุ่งมั่นมากขึ้น และมีวินัยมากกว่าที่เธอคาดคิด
"ความรู้ที่คุณมีหลังจากที่โผล่พ้นจากความล้มเหลวแต่ละครั้งอย่างมีปัญญาและเข้มแข็งกว่าเดิม แปลว่า คุณจะมีความสามารถในการเอาตัวรอดติดตัวไปตลอดชีวิต"
"คุณจะไม่มีวันรู้จักตัวเองอย่างแท้จริงหรือรู้จักความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์ในชีวิตจนกว่าทั้งสองสิ่งนี้ จะถูกทดสอบด้วยเคราะห์ร้าย"
เธอสรุปว่า "ความรู้แบบนี้ เป็นพรสวรรค์ที่แท้จริงและได้มาด้วยความยากลำบาก" "มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับฉันมากกว่าคุณวุฒิทุกอย่างที่ฉันเคยได้รับ"
สำหรับเธอแล้ว ชีวิตเป็นเรื่องยากซับซ้อน และไม่มีใครสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์
ถ้านั่งไทม์แมชชีน หรือเครื่องย้อนเวลากลับไปได้ เธอก็จะบอกกับตัวเองในวันที่มีอายุ 21 ปีว่า ให้ยอมรับในสัจธรรมข้อนี้
"ความอ่อนน้อมถ่อมตนในการยอมรับความจริงดังกล่าว จะช่วยให้คุณรอดพ้นจากความผันผวนของชีวิต"
-------
 
ที่มา:  http://www.youtube.com/watch?v=nkREt4ZB-ck 
  เครดิตนี้มอบให้แก่: หนุ่มเมืองจันท์ "ความล้มเหลวและจินตนาการ (1)"
จากมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 24-30 ตุลาคม 2551, หน้า 24
  แชร์มาจาก M Nanopsorn Sriviboonchai เมื่อ 23 เมษายน 2555 และได้ปรับปรุงบ้างเล็กน้อย
จาก http://harvardmagazine.com/2008/06/the-fringe-benefits-failure-the-importance-imagination, วันที่สืบค้น 23 เม.ย.55
info@huexonline.com