MENU
TH EN

ขุนลอ เจ็ดเจือง และเมืองพวน

Title Thumbnail: เมืองพวนในอดีต ไม่ทราบปีที่ถ่าย ที่มา: Facebook เพจ "กลุ่มศึกษาลาว-อีสานเพื่อเผ่าพันธุ์ลาว," วันที่เข้าถึง 5 สิงหาคม 2564.
ขุนลอ เจ็ดเจือง และ เมืองพวน01.
First revision: Aug.05, 2021
Last change: Aug.05, 2021
สืบค้น รวบรวม เรียบเรียง และปริวรรตโดย
อภิรักษ์ กาญจนคงคา.

ประวัติศาสตร์เมืองพวน01.
       เมื่อขุนลอผู้เป็นอ้ายได้ครอบครองเมืองหลวงพระบาง อยู่เย็นเป็นสุขสบายแล้ว ขุนลอก็มีความคิดฮอดคิดถึงเจ็ดเจืองผู้เป็นน้อง ที่ครอบครองเมืองพวนพุ้น เพราะขุนลอกับเจ็ดเจืองสองอ้ายน้องมีความฮักแพงซึ่งกันและกันหลายที่สุด ทั้งฝ่ายเจ็ดเจืองก็มีความรักและคิดฮอดคิดถึงขุนลอผู้เป็นอ้ายอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ขุนลอจึงสั่งให้ขุนใหญ่ตางตน ให้ไปเชิญองค์น้องเจ็ดเจืองมายามด่วน.

       เมื่อรับทราบแล้ว โดยบ่ได้ชักช้า เจ็ดเจืองก็ได้จัดเอากำลังให้ติดตามตนลงไปหาขุนลอโดยด่วน เมื่อเจ้าเจ็ดเจืองลงไปถึงเมืองหลวงพระบางแล้ว ขุนลอผู้เป็นอ้ายก็ปลื้มปีติยินดี จึงออกไปต้อนรับเจ็ดเจืองผู้เป็นน้อง พร้อมกับเชิญเข้าไปในหอพักเซาที่ภูสี กลางเมืองหลวงพระบาง ภูสีนี้มีชื่อเดิมว่า ภูเขาก้า.

       ขุนลอและเจ็ดเจือง สองอ้ายน้องก็พร้อมกันเข้าพักผ่อนในห้องพิเศษที่ได้จัดแจงเอาไว้ จากนั้นเจ้าพระยา เสนาอามาตย์ และชาวเมืองหลวงพระบาง ก็พร้อมกันมาทำลาบาสีสู่ขวัญเบิกบานม่วนซื่นยินดี ขุนลอกับเจ็ดเจืองสองอ้ายน้องขึ้นนั่งแท่นเรียงกัน สนทนากันด้านราชการเมืองต่างๆขุนลอกับเจ็ดเจืองมีความคิดถูกต้องกันเหมือนดั่งความคิดพรหมแล้วขุนลอจึงเว้าขึ้นว่า พวกเรานี้เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน แต่พวกเราต่างคนก็ต่างได้ครอบครองเมืองต่างกันแล้ว.

       เมืองของเราสองอ้ายน้อง เขตแดนใกล้ชิดติดกัน เราทั้งสองต้องประกอบด้วยความสามัคคีไมตรี อย่าให้เป็นที่แตกหักกันได้ ให้เหมือนดั่งบิดาที่ได้สาบานน้ำให้พวกเรากินนั้นเทอญ.

       อีกหนึ่งพวกเราก็ควรจะหมายเขตแดนที่ติดต่อกันไว้ อย่าให้เป็นที่เสื่อมสูญในกาละข้างหน้า.

       ขุนลอและเจ็ดเจืองคิดถูกกัน ที่จะแบ่งหมายเขตแดนเมืองพวน-เมืองหลวงพระบาง เพื่อจะให้ตั้งมั่นในชั่วมหากัปป์ และจะได้สืบเป็นหลักไปถึงเซ่นลูก เซ่นหลาน และเซ่นเหลน ขุนลอกับเจ็ดเจืองจึงพร้อมกันจัดแต่งขุนทั้งแปดคน ให้ออกไปหมายเขตแดน กำหนดให้ขึ้นไปทางน้ำคาน ถ้าถึงภูเขาหลุบแล้ว ให้ตั้งที่นั้นเป็นต้น.

       แล้วจึงแบ่งกันไปทางฝ่ายเหนือ ฝ่ายใต้ ขุนทั้งแปดรับคำสั่งของขุนลอและเจ็ดเจืองแล้ว ทั้งแปดขุนก็รีบไปปฏิบัติด่วน เมื่อขุนทั้งแปดไปถึงเขาหลุบแล้ว แปดขุนก็พากันขึ้นไปถึงยอดเขาหลุบ แล้วก็พากันนั่งพัก แบ่งกันสี่ขุนให้ไปหมายเขตแดนฝ่ายเหนือ อีกสี่ขุนให้ไปหมายเขตแดนฝ่ายใต้ สี่ขุนที่ไปทางใต้นั้นให้ออกจากเขาหลุบ ไต่สันเขาหลุบไปถึงเขาโทน ไต่สันเขาโทนไปถึงเขากิ่วกับกิ่วก่อง ไต่สันเขากิ่วกับกิ่วก่องไปถึงเขากิ่วคอง ไต่สันเขากิ่วคองไปถึงเขามอน ไต่สันเขามอนไปถึงเขากะแทะ ไต่สันเขากะแทะไปถึงเขากะทิง ขึ้นเขากะทิงไต่สันไปถึงเขากะซิง ขึ้นเขากะซิงไต่สันลงไปบ้านค่วง จากบ้านค่วงถึงเมืองกาย-เมืองซอง จากเมืองกาย-เมืองซองถึงหน้างาป่าแค จากหน้างาป่าแคไปถึงบ้านถิ่นน้อย จากบ้านถิ่นน้อยไปถึงบ้านนาซน จากบ้านนาซนไปลงใส่ห้วยใหญ่ ตามห้วยใหญ่ล่องถึงน้ำงึ่มที่ท่าหวาย จากท่าหวายน้ำงึ่มขึ้นเขาหง ไต่สันเขาหงไปถึงสะก้า บ้านด่าน หินคอน จากสะก้า บ้านด่าน หินคอนไปถึงเส็ดซ้อย เชียงค้อม ปากซาว จากเส็ดซ้อย เชียงค้อม ปากซาวลงไปใส่น้ำซัน ตามน้ำซันล่องถึงหาดทรายริมน้ำซัน ออกจากหาดทรายริมน้ำซันไปถึงเขากิ่วใต้ ไต่สันเขากิ่วใต้ไปถึงพระนอนบ้านแดด จากพระนอนบ้านแดดไปลงใส่ปากน้ำกะดิง ในส่วนน้ำกะดิงนี้คือน้ำม่วน แต่ปากที่ออกต่อกับน้ำของ เขาเอิ้นว่าปากกะดิง แล้วแต่น้ำกะดิงขึ้นไปถึงที่หมอนท้าวท่าเพีย จากหมอนท้าวท่าเพียไปถึงยอดน้ำซุน - ไปถึงยอดน้ำยาง จากยอดน้ำยางขึ้นเขาแฮ้ว ไต่สันเขาแฮ้วไปถึงเขาไส ไต่สันเขาไสไปถึงเขาแสด ไต่สันเขาแสดไปถึงเขาผาดับ ไต่สันเขาผาดับไปถึงยอดห้วยเผือก ตามห้วยเผือกล่องไปถึงห้วยหาดคาว แล้วข้ามน้ำโม้ ขึ้นเขาผาหลวงไต่สันเขาผาหลวงลงไปใส่เพียงบ้าง จากเพียงบ้างลงไปใส่น้ำโม้ ตามลำน้ำโม้ล่องไปถึงห้วยสว่าง จากปากห้วยสว่างขึ้นเขาหลวง ไต่สันเขาหลวงไปถึงน้ำเนิน ตามน้ำเนินขึ้นไปถึงปากน้ำลาน เท่านี้เป็นเขตเมืองพวนทิศบูรพา.

       ต่อนี้จะแม่นด้วยสี่ขุน ที่ขึ้นไปหมายเขตเมืองพวน-เมืองหลวงพระบางฝ่ายเหนือ ตั้งต้นจากเขาหลุบ ที่แปดขุนแบ่งกันนั้น สี่ขุนที่ไปฝ่ายเหนือก็ตามน้ำคานขึ้นไปถึงปากน้ำคาว จากปากน้ำคาวตามน้ำคานขึ้นไปถึงปากน้ำสวย ขึ้นเขาปากน้ำสวย ไต่สันเขาปากน้ำสวยถึงต้นหมากม่วง เค้าแดนเมืองที่มีหมาก 2 อย่าง อย่างหนึ่งแม่นหมากม่วงคำ และอีกอย่างแม่นหมากม่วงป้าน จึงได้เอิ้นชื่อต่อ ๆ กันมาว่า ต้นหมากม่วงเค้าแดนเมือง ต้นหมากม่วงนั้นมีความสูงตั้งแต่ดินขึ้นไปถึงง่าคบ ประมาณได้ห้าวา, ความใหญ่ได้สี่อู้มจากต้นหมากม่วงเค้าแดนเมืองไปถึงเขานางคำผง ไต่สันเขานางคำผงไปถึงบ้านตาด จากบ้านตาดลงไปใส่บ้านเสียบ-เมืองสัน ลงไปใส่ปากน้ำสิ่ว ตามน้ำสิ่วล่องลงไปถึงห้วยนาหลวง จากบ้านนาหลวงลงไปใส่ห้วยนาแร้ง ตามห้วยนาแร้งล่องถึงน้ำเนิน ตามน้ำเนินล่องถึงปากน้ำลาน.

       แปดขุนที่แบ่งกันไปหมายเขตแดน เลยไปบรรจบคบกันอยู่ที่ปากน้ำลาน ตั้งแต่พ้นเมืองลานลงไป เป็นดินแดนเมืองปะกันหลวง เมืองยวน.

       แปดขุนหมายเขตแดนแล้ว ก็พากันลงไปยังเมืองหลวงพระบาง เข้าไปเฝ้าขุนลอและเจ็ดเจือง กราบทูลที่ได้ไปหมายเขตแดนสำคัญไว้.

       ขุนลอและเจ็ดเจือง เมื่อได้ทราบความของแปดขุนแล้วก็มีความปลื้มปีติยินดี ในการที่เมืองล้านช้างกับเมืองพวนได้แบ่งเขตแดนกันนี้ ขอให้เป็นหลักอันมั่นคงไปชั่วมหากัปป์ ใผอย่าได้เอาเขตแดนซึ่งกันและกัน จนชั่วบุตรหลานเหลนที่จะได้สืบตระกูลต่อไปข้างหน้า จนกว่าจะเห็นมหาสมุทรแห้ง จนเห็นทรายพื้นสมุทรแห้งปลิวขึ้นไปทั่วโลก หรือว่าเขาพระสุเมรุล้มลงไปก็ดี หรือว่าไฟเกิดไหม้ในภัทรกัปป์นี้ จึงให้ที่หมายเขตแดนและคำ กล่าวที่แบ่งปันเขตแดนนี้สูญ เมื่อนั้น เมื่อใด ในภัทรกัปป์นี้ยังตั้งอยู่ตราบใด ขอให้เขตแดนและคำที่กล่าวไว้ในสัญญาตกลงกันนี้ ตั้งอยู่ตราบนั้น.

       ถ้าใผบ่ฟังและปฏิบัติตามคำสัญญาที่ได้ตกลงกันนั้น ให้ผู้นั้นดับไปเหมือนดั่งเพลิง และให้คนนั้นน้อย และน้อยเข้าไป ดั่งคนปลอกหมากปลี และให้มีอันตราย 10 ประการ เกิดขึ้นในตัวตนนั้น และเมื่อใดคนนั้นหากตายให้ตกหม้อนรกหมกไหม้ ให้หลายกว่าแสนปีและผู้นั้นอย่าให้มีอายุมั่นยืน ให้ปีในอายุสั้นเส้าลง คนนั้นหากปลูกต้นไม้ก็อย่าให้มันใหญ่ ปลูกหวายก็อย่าให้มันทันแก่ หากผู้นั้นแหงนขึ้นไปเทิงฟ้า ให้ฟ้าผ่า หากคนนั้นไปป่าก็ให้เสือกิน หากคนนั้นไปทางน้ำก็ให้เงือกใหญ่กิน และให้อัปรีย์จังไรถึงตัวคนนั้นทุกวันจนชั่วบุตร, ชั่วหลาน, ชั่วเหลน และชั่วหล่อน ใผอย่าได้ชิงเขตแดนซึ่งกันและกัน และอย่าได้ยกกำลังไปรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน.

       ถ้าราษฎรและช้างม้าวัวควายเมืองใด หนีไปอยู่ในเขตแดนของผู้ใด ให้ส่งคืนกันโดยดี เมืองใผให้เป็นเมืองผู้นั้น เพราะ เจ็ดเจืองกับขุนลอ สองอ้ายน้อง ได้สาบานน้ำให้แก่กันแล้ว และคำที่กล่าวมานี้ ขอให้มั่นคงอยู่ได้ในแสนมหากัปป์ จะได้เป็นหลักมั่นคงดั่งพัทสิมมา แก่พงศ์พันธุ์ต่อไป ถ้าผู้ใดบ่ฟังคำที่กล่าวมานั้น ถึงพระพุทธเจ้าจะเกิดขึ้นมา ก็อย่าให้เห็นผู้นั้น.

      เมื่อขุนลอกับเจ็ดเจืองสาบานกันแล้ว เจ็ดเจืองผู้เป็นน้องชายก็กราบอำลาขุนลอผู้เป็นอ้าย กลับไปยังเมืองเชียงขวางดั่งเก่า ปกครองไพร่ฟ้าประชากร สร้างสาพัฒนาแผ่นดินสืบต่อกันมาได้หลายชั่วคนแล้ว01.



ที่มา คำศัพท์ และคำอธิบาย:
01. จาก. Facebook เพจ "กลุ่มศึกษาลาว-อีสานเพื่อเผ่าพันธุ์ลาว," อ้างถึง ปื้มประวัติศาสตร์ของหม่อมเจ้าหญิงคอยท่า ปราโมช และ ประวัติศาสตร์เมืองพวน - เจ้าคำหลวง หน่อคำ, วันที่เข้าถึง 5 สิงหาคม 2564.


 
info@huexonline.com