MENU
TH EN

ทำไมพระเจ้าไม่มีอยู่จริง

บทความนี้ พบใน Facebook ที่มาเริ่มแรกคือ http://atcould.com/discussions/110765

ซึ่งกระผมเห็นว่าน่าสนใจ บางท่านอาจจะอึดอัดกับความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ขอให้รับฟัง อดกลั้น และพิจารณาอย่างมีสติ ซึ่งนี่ก็คือหนึ่งในแก่นแท้ของปรัชญา...

โดยสามารถอยู่ร่วม ทำความเข้าใจกับผู้ที่คิดต่างกับเราได้นั่นเอง

หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจ ผู้ที่แสวงหาความหมายของชีวิตในยุคหลังนวสมัย (Post-modern) ได้บ้างไม่มากก็น้อย

21 พฤศจิกายน 2556



ทำไมพระเจ้าไม่มีอยู่จริง?
 
1.   พระเจ้าเกิดจากความไม่รู้ หลักการมีอยู่ของพระเจ้านอกจาก ไม่มีเหตุผลแล้ว ยังมีเหตุผลในทางเท็จอีกด้วย เช่น หลักการผู้สร้างที่พวกคุณบอกว่าคิดแบบวิทยาศาสตร์ เป็นเพียงการคิดไม่จบเหมือนคนเดินหาคำตอบ แต่ไม่ถึงจุดหมายแล้วสรุปเอาเสียก่อน เช่นที่ว่า สิ่งซับซ้อนต้องมีผู้สร้าง ระบบต้องมีผู้วาง แต่พวกคุณเพียงลืมคิดว่า ตัวผู้สร้างเองก็มีสติปัญญา มีเจตจำนง มีความรู้ เท่ากับว่าตัวผู้สร้างเอง ก็เป็นสิ่งซับซ้อน เช่นเดียวกัน หลักการคิดที่ว่าสิ่งซับซ้อนต้องมีผู้สร้างจึงเป็นเท็จในตัวเอง.

2.   สร้างจักรวาล พึ่งพิจารณาว่าจักรวาลมีลักษณะเป็นพื้นที่ การสร้างจักรวาลเท่ากับสร้างพื้นที่ นั้นหมายความว่าก่อนสร้าง ต้องมีสภาวะไร้พื้นที่ หรือสภาวะพื้นที่จำกัด แต่สภาวะเช่นนี้กลับไม่มีจริง ความว่างเปล่าก็คือพื้นที่ที่มีสสารเพียงน้อยนิด เช่น ขี้มดก็ถือว่ามีพื้นที่ คำว่าสร้างจักรวาลจึงมีเหตุผลเป็นเท็จ.

3.   จักรวาล คือ อาณาเขตกว้างใหญ่ ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อไร้ขอบเขตย่อมมีธรรมชาติในตัวมันเอง ถ้ามีพระเจ้า ก็จะต้องอยู่ในจักรวาลเท่านั้น และเป็นไปตามธรรมชาติของจักรวาล พระเจ้าจะอยู่นอกจักรวาลและสร้างจักรวาลย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะมันไร้ขอบเขต ดังนั้นธรรมชาติแห่งจักรวาล คือ ผู้สร้างทุกอย่าง ซึ่งหมายความว่าพระเจ้าไม่มีจริง ถ้ามีจริง ตอนสร้างจักรวาลนั้น พระเจ้าอยู่ไหน?   

4.   ทฤษฏีทุกอย่างต้องมีผู้สร้าง ที่พวกคุณ คริสต์ อิสลาม ยิว ปฏิเสธการถือกำเนิดตามกฎธรรมชาติ พิจารณาพระเจ้าว่ามีชีวิต มีจิตใจ มีสติปัญญาฉลาด มีความซับซ้อน แต่กลับบอกว่าสิ่งซับซ้อนแถมมีจิตใจ จิตวิญญาน เป็นสิ่งที่มีมาแต่เดิมเป็นเวลานานแล้ว อธิบายความซับซ้อนของมนุษย์ต้องมีผู้สร้าง แล้วสิ่งซับซ้อนอย่างพระเจ้าล่ะ ใครสร้าง?

5.   คนที่เชื่อพระเจ้า เค้าบอกว่าธรรมชาติช่างซับซ้อน และไม่น่าจะเกิดขึ้นเองได้ แต่กลับเชื่อว่าพระเจ้าที่ซับซ้อน เป็นสิ่งที่มีมาแต่เดิม เกิดขึ้นเอง มันไม่ผิดหลักการที่ว่าซับซ้อนต้องมีผู้สร้างหรือครับ?

6.   ลักษณะของสิ่งที่เป็นอนันต์ ในการสร้างจะเป็นสิ่งที่มีจิตใจไม่ได้ สิ่งที่เป็นอนันต์ เช่น อวกาศ ไม่มีที่สิ้นสุด และเวลาไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดจบ สิ่งที่เป็นอนันต์ จะไม่มีจิตใจ สิ่งที่ีมีจิตใจจะไม่เป็นอนันต์.

7.   พระเจ้าอยู่เหนือธรรมชาติ เป็นการสร้างภาพพจน์ของพระเจ้า ให้อยู่เหนือเหตุผลทั้งปวง แต่ในทางเดียวกัน เหนือเหตุผล ก็คือ ไร้เหตุผล ซึ่งเป็นสิ่งที่ดูแปลก ๆ สื่งไร้เหตุผลกลับมาสร้างสิ่งที่มีเหตุผล และสิ่งที่มีเหตุผลกลับต้องเชื่อสิ่งไร้เหตุผล ถ้าตามหลักเหตุผลแล้ว สิ่งไร้เหตุผลถือเป็นสิ่งไม่มีจริง.

8.   ถ้าพระเจ้ามีจริง และทรงเมตตากรุณาปราณี ทำไมถึงสร้างระบบนิเวศ ระบบชีวิตที่โหดร้าย ฆ่ากัน กินกันสด ๆ ให้ดำรงการมีชีวิตอยู่ด้วยความเห็นแก่ตัว นี่แหละมันแสดงการเกิดขึ้นตามกฎธรรมชาติ ที่ไม่มีจิตใจ และเมตตา แค่เป็นไปตามกฎเท่านั้น จึงเป็นเช่นนี้ และแสดงถึงการไม่มีพระเจ้าอีกด้วย.

9.   หากพระเจ้าผู้สร้างมีจริง เหตุใดจึงมีความพิการเกิดขึ้นบนโลก.

10.  หากพระผู้สร้างมีจริงและมีเมตตา เหตุใดจึงสร้างให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ด้วยการต่อชีวิต ในธรรมชาติมีการฆ่ากันที่โหดร้าย.

11.  หากพระผู้สร้างมีจริง เหตุใดจึงมีคนผิดเพศ และบัญญัติให้การผิดเพศเป็นบาป (การผิดเพศทางใจ เกิดจากความผิดปรกติทางสมอง).
 
12.  หากพระผู้สร้างมีจริง เหตุใดยามที่ลูก ๆ ของท่านทะเลาะกันในสงครามครูเสด ท่านจึงไม่ลงมาห้าม.

13.  หลักความบังเอิญไม่มีจริง แต่แท้จริงแล้วความบังเอิญ เป็นเรื่องธรรมดาที่มีอยู่จริง เป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น คุณขว้างไข่ไปท่ามกลางผู้คน เปอร์เซ็นต์ที่จะโดนชายโดนหญิงมันเกิดขึ้นแล้ว การมีอยู่ของเราเป็นเพียงแค่เปอร์เซ็นต์ความบังเอิญในนับล้านหรือสิบล้าน ตามหลักกลศาสตร์ควอนตัม หลังจากเกิดบิ๊กแบงค์ นี่เป็นคำตอบว่า ทำไมถึงไม่มีมนุษย์หรือดาวเพื่อนบ้าน.

14.  หากพระผู้สร้างมีจริง เหตุใดจึงมีศาสนทูต ทำไมท่านลงมาสั่งสอนเองไม่ได้ ความขัดแย้งเลยเกิดขึ้น.

15.  ธรรมชาติคืออะไร? ธรรมชาติ คือ กฎ มีลักษณะ ที่เรียนรู้ได้ คือเหตุและผล คือ ความเป็นจริง วิทยาศาสตร์จึงเกิดขึ้นเพื่อเรียนรู้ สิ่งนี้ที่ว่าสรรพสิ่ง เกิดขึ้นตามธรรมชาติ คือ เกิดจากกฎเหตุและผล ตลอดจนความเป็นจริง พระเจ้าคืออะไร คือสิ่งที่ไม่มีเหตุผล ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีกฎ สิ่งนี้ไม่สามารถเป็นจริงได้ในโลกแห่งความเป็นจริง แต่ในจินตนาการเป็นได้มีเหตุผลตรงไหนที่ไปจบที่พระเจ้า.

16.  พระเจ้าเป็นจริงได้เพียงในจินตนาการเท่านั้น หลักของความเป็นจริงในโลกแห่งความเป็นจริง คือ 1) เหตุผล เป็นสิ่งที่ทำให้เรารับรู้และรู้จักมัน ในลักษณะของความเป็นไป 2) กฎทำให้เรารับรู้ได้ว่าอะไรเป็นอะไร แสดงถึงการมีอยู่ แม้เวลาไม่มีตัวตน แต่เราก็มีกฎที่รับรู้มันได้ แต่ลักษณะของพระเจ้า ไร้กฎ ไร้เหตุผลเป็นเพียงการสร้างภาพให้ยิ่งใหญ่ ว่าจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริง ธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นหลักฐานของการมีอยู่ สภาวะความเป็นจริง คือการมีกฎเกณฑ์.

17.  ธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นหลักฐานของการมีอยู่ สภาวะความเป็นจริง คือการมีกฎเกณฑ์ ถึงเราจะไม่ได้รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ได้หมายความว่าธรรมชาติไม่มีหลักฐาน เพราะธรรมชาติคือหลักฐาน และเหตุผลก็คือ กฎและความเป็นไป วิทยาศาสตร์จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อศึกษามัน ซึ่งในธรรมชาติและความเป็นจริง บอกเราว่าทุกอย่างต้องมีเหตุผล และกฎเกณฑ์ซึ่งพระเจ้าไม่มีเหตุผล ไม่มีกฎเกณฑ์ เป็นการสร้างสภาวะให้ดูยิ่งใหญ่ แต่ขณะเดียวกันกลับขัดแย้งที่จะอยู่ในสภาวะความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง.
 Adam & Eve
18.  เรื่องแปลกอีกประการหนึ่งของ อดัมกับอีฟ คือการที่มนุษย์มีหลายเผ่าพันธุ์บนโลกนี้.
 
19.  ไซฎอน (ไซตอน, ซัยตอน หรือ ซาตาน - เป็นประเภทหนึ่งของญิน) -  และ ญิน (ณีน ก็คือ เผ่าพันธุ์หนึ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้น มีธาตุกำเนิดจากเปลวไฟที่ไร้ควัน มีรูปกายละเอียด มีการดำรงชีวิตเช่นเดียวกับมนุษย์ มีการกิน การนอน การสืบพันธุ์ ฯลฯ ในนิทานอาหรับราตรี เรื่อง อาลาดิน จะมียักษ์ในตะเกียง ชื่อว่า จินนี่ ... ความจริงแล้ว ก็คือ ญิน หรือ ญินนี่ นั่นแหละครับ) เป็นเพียงสิ่งที่สร้างไว้เพื่อกันคนออกจากศาสนา เช่น เจอหมอดูแม่น ก็บอกว่าไซฎอนกัน ไม่ให้คนเชื่อเรื่องโชคชะตา เรื่องกรรม คนระลึกชาติ ก็บอกว่าญิน แต่ถามว่า หากพระเจ้ามีจริง และการเวียนว่ายตายเกิดไม่มีจริง เวรกรรมไม่มีจริง จะมีความยุติธรรมต่อโลกและสรรพสัตว์ได้อย่างไร? หากผึ้งตัวหนึ่งถามพระเจ้าว่า เหตุใดพระเจ้าถึงสร้างให้สรรพสัตว์ไม่เท่าเทียมกัน? ทำไมมนุษย์สุขสบาย? ทำไมสัตว์อื่นเกิดมาเพื่อทำงานหนัก? เกิดมาเพื่อเป็นอาหารบ้าง? เกิดมาแล้วถูกมนุษย์เบียดเบียนบ้าง? ลำบากบ้าง? ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหนกับเล่า? ท่านพระผู้เป็นเจ้าเมตตา?

20.  ไม่ว่าจักรวาลที่มนุษย์จะสามารถกำหนดขอบเขตไว้กว้างแค่ไหนก็ตาม แต่ในความเป็นจริงของธรรมชาติบอกเราไว้ถึงสภาวะ ไม่สิ้นสุดแห่งขอบเขต ความว่างเปล่าก็เป็นพื้นที่ สะสารก็คือพื้นที่ สภาวะพื้นที่จำกัด หรือสภาวะไร้พื้นที่ จึงเป็นสิ่งที่ไม่มี.


ลงท้าย

     จักรวาลและธรรมชาติ มีอยู่แต่เดิมแล้ว กฎของธรรมชาติสามารถอธิบายเรื่องต่าง ๆ ได้ เพียงแต่เราเคยถามตัวเองบ้างไหมว่ารู้จักกฎธรรมชาติหมดหรือยัง? คำว่าถูกสร้าง ตรรกะข้อนี้ เริ่มจากการเปรียบเทียบ เพื่อหาเหตุผล พาลไปจับเอาว่า สิ่งรอบข้างถูกเราสร้างหมด เลยพาลไปว่าตัวเราถูกสร้างไปด้วย แล้วพระเจ้าตอบคำถามเหล่านี้ได้หรือไม่?

     หลายอย่างเกิดจาก ความผิดปกติของธรรมชาติ แล้วความผิดปกติของธรรมชาตินั้น จะมีได้อย่างไร หากเรามีผู้สร้างที่มีความคิดที่เฉลียวฉลาด.

     บางอย่างก็เกิดจากความละเลย พระเจ้าผู้เมตตานั้น เหตุใดพระองค์จึงทรงละเลยให้คนโต้แย้ง ข้าใจผิด และทะเลาะกัน ฆ่าฟันกัน. 

     หลักฐานการมีอยู่ของพระเจ้า เป็นเพราะเราไปทึกทักเอาเองว่า ธรรมชาติและความเป็นระเบียบ ถูกสร้างโดยพระเจ้า เพียงเพื่อสนับสนุนแนวคิด เพียงเพื่อหาเหตุผล สนองการขยายศาสนา หลายสิ่งหลายอย่าง เราสามารถเปรียบเทียบได้ เพื่อหาเหตุผล เพียงแต่เราลืมดู (ความเหมาะสม) ความจริงของธรรมชาติ ที่มีนานาชนิดและหลากหลายรูปแบบ ซึ่งลำพังเพียงตัวมันเองนั้น ไม่ได้สลับซับซ้อนเลย.

     ถ้าจะถามว่า อภิมหาซุปเปอร์คอมพิวเตอร์อย่างพระเจ้า กับก้อนหินที่ล่องลอยในจักรวาลอะไร น่าจะเป็นสิ่งที่มีมาแต่เดิม.


 
info@huexonline.com